หน้าแรก เรียนเป็นผู้ประกอบการ ข่าว/บทความ

ตัวเลขฟ้อง! 7 สาเหตุที่ผู้ประกอบการธุรกิจ Startup ในไทยไม่ประสบความสำเร็จ

วันที่เวลาโพส 20 มิถุนายน 60 15:28 น.
อ่านแล้ว 0
P' แพว AdmissionPremium

ปัจจุบันอย่างที่เราเห็นและได้ยินกันมาพอสมควรว่า องค์กรหรือสถาบันหลักหลายภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน รวมทั้งนานาชาติ ต่างให้การสนับสนุนและผลักดันทุกอย่างให้เกิด "ผู้ประกอบการธุรกิจ Startup" มากและมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อสอดรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก
Startup
แต่จากสถิติของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กลับพบว่า ผู้ประกอบการชาวไทยที่ประสบความสำเร็จมีจำนวนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ได้รับการผลักดันและสนับสนุนมากมาย แต่ทำไมตัวเลขถึงออกมาแบบนั้น?

เรื่องนี้ ดร.ศศิรินทร์ สายะสนธิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารกิจการ และหัวหน้าภาควิชาการสร้างเจ้าของธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้วิเคราะห์และอธิบาย สาเหตุที่ Startup ไทย ไม่ประสบความสำเร็จไว้ 7 ประเด็น ดังนี้


1. Startup ขาดความเข้าใจด้านการตลาดและลูกค้าอย่างแท้จริง
Startup ต้องอาศัยองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่จึงมีความมั่นใจและทุ่มเทให้เรื่องนี้มากเกินไป จนละเลยหรือลืมมองรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดขึ้น แต่เมื่อผ่านประสบการณ์ความล้มเหลวมาแล้ว ผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้จะเห็นโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในการทำธุรกิจครั้งต่อไป โดยนำประสบการณ์ที่ผิดพลาดมาปรับปรุงธุรกิจครั้งใหม่นั่นเอง


2. ยึดติดและเป็นคนดีของสังคมเกินไป
ทุกหน่วยงานสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ Startup คิดค้นนวัตกรรม ต้องไม่เหมือนใคร ทำให้พวกเขาไม่กล้าจะลอกเลียนรูปแบบธุรกิจที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงสามารถดูตัวอย่างธุรกิจที่มีอยู่แล้วและนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ถ้าสังเกตจะพบว่า ธุรกิจ Startup ที่ประสบความสำเร็จหลายๆ รายมีรูปแบบไม่ค่อยต่างกันนัก เช่น Alibaba ที่มีความคล้ายคลึงกับ eBay หรือ Grab Taxi ที่พัฒนารูปแบบมาจาก Uber


3. นโยบายรัฐที่ผิดพลาด
รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนเป็น Startup โดยอิงกระแสโลกและยกตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจเพียงไม่กี่ราย ทั้งๆ ที่อัตราการประสบความสำเร็จนั้นยากยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายอาจไม่เหมาะสมกับบริบทของไทยหรือขาดการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าจริงๆ แล้วประเทศไทยควรสร้างผู้ประกอบการลักษณะใดกันแน่ นอกจากนี้รัฐบาลยังสนับสนุนให้สร้างและเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการ แต่กลับไม่คำนึงถึงการสร้างคนซื้อไปพร้อมๆ กัน ทำให้มีคนขายมากกว่าคนซื้อ รัฐบาลจึงควรสนับสนุนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นทั้งจากภายในและต่างประเทศ


4. ขาดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า
ผู้ประกอบธุรกิจ Startup ที่ล้มหายไป ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยในระยะแรกอาจจำหน่ายสินค้าหรือบริการได้เพราะความแปลกใหม่ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะก็เริ่มขายไม่ออก ลูกค้าไม่ซื้อซ้ำ หรือไม่สามารถสร้างลูกค้ารายใหม่ๆ ได้ เมื่อประสบปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียนก็จำเป็นต้องเลิกกิจการไป ดังนั้นหากสามารถหาวิธีมัดใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องได้ กิจการก็จะอยู่รอด


5. ใช้เงินสูงเกินไปในการเริ่มต้นธุรกิจ
ผู้เริ่มทำ Startup มักลงทุนตามอารมณ์หรือวาดฝันอย่างสวยหรูมากเกินไปเพราะคิดว่าเงินเหล่านั้นคือการลงทุน สักพักก็จะได้กำไรคืนกลับมา โดยลืมไปว่าการใช้เงินมากเกินในการเริ่มต้นธุรกิจหมายถึงต้นทุนที่สูงมากขึ้น โอกาสในการได้ทุนคืนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่น นำเงินไปสร้างสำนักงานที่สวยหรูหรือซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพงเกินความจำเป็น


6. Startup มีวงจรชีวิตที่ค่อนข้างสั้น
Startup เป็นธุรกิจที่อิงกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มักมาไวและไปไว อันส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของความนิยมอย่างรวดเร็ว เช่น เกม Pokemon GO ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงแรก แต่ปัจจุบันแทบไม่มีใครให้ความสนใจ จะเห็นได้ว่าธุรกิจประเภทนี้มีการเติบโตที่รวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันอายุขัยของธุรกิจก็สั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นการปรับตัวที่รวดเร็วให้ทันกระแสสังคมจึงเป็นเรื่องท้าทายความสามารถของผู้ประกอบธุรกิจ Startup เป็นอย่างยิ่ง


7. พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยยังไม่สอดคล้องกับธุรกิจ Startup
ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะลูกค้าจะเข้าถึงสินค้าและบริการของธุรกิจ Startup ได้นั้นต้องอาศัยเทคโนโลยีและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่าง Smartphone หรือ Tablet ทำให้กลุ่มลูกค้าแคบลง จริงอยู่ว่าการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในประเทศไทยแพร่หลายขึ้นมาก แต่ก็ยังถือว่าเป็นการใช้งานเฉพาะกลุ่มอยู่ดี พฤติกรรมดังกล่าวจึงยังไม่ค่อยเอื้อกับธุรกิจ Startup เท่าที่ควรถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ


ท้ายนี้ แม้การทำธุรกิจ Startup ในประเทศไทยอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการศึกษาและผ่านกระบวนการบ่มเพาะการสร้างเจ้าของธุรกิจอย่างถูกต้องเหมาะสมกับบริบทของประเทศโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจจริง โอกาสในการประสบความสำเร็จก็ไม่ยากและไกลเกินจะทำได้


ที่มา :
www.bangkokbiznews.com

 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด