5 อาชีพเกิดใหม่ ในยุคสังคมโซเชียล

โลกหมุนเร็วเว่ออออร์! ตอนเด็กๆ ผมก็นึกว่าอาชีพบนโลกนี้มีแค่ 10 อย่างตามที่ครูเพ็ญหวีเคยบอก ก็มี ทหาร หมอ คุณครู พยาบาล นักดับเพลิง ตำรวจ นักบิน หมอฟัน ดารา-นักร้อง และวิศวกร นี่คือสแตนดาร์ดอาชีพของคนไทยที่ถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าโตขึ้นให้เป็นหมอ เป็นนักบิน หรืออะไรก็แล้วแต่ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่ารายได้ดี มีคนนับหน้าถือตา… แต่ถ้าคุณลองมองดูชีวิตโซเชียลรอบข้าง คุณจะเห็นว่ามีอาชีพใหม่ๆ ผุดขึ้นมาหลากหลายนานับอนันต์ บางอาชีพก็ไม่น่าเป็นอาชีพได้ แต่ก็ดันสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลเลยนะ!

ใช้โซเชียลกันทั้งคืนทั้งวัน อ่านกันทุก news feed แบบนี้ รู้หรือป่าวว่าที่อ่านอยู่นั้นเป็นผลงานของอาชีพอะไรบ้าง มาดูกัน!

1.Online Seeding (Seeder): นิ่งๆ แต่เนียน



เจ้าอาชีพที่ทำการ Seeding หรือที่เราเรียกว่า Seeder นี้ ไม่ใช่อาชีพทางการเกษตร หรือการเพาะเมล็ดขายแต่อย่างใด แต่ถ้าลองแปลกันดีๆ ให้ลึกซึ้งกันอีกหน่อย อาชีพนี้มันก็คือการ “หว่านเมล็ดพืชหวังผล” นั่นเอง แต่ว่าจะหว่านอย่างไร ให้พืชนั้นงอกงามไร้ศัตรูพืชล่ะ?…
ความหมายที่จะสื่อนั่นก็คือ การที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือเจ้าของแบรนด์นั้นๆ ต้องการขายของแบบเนียนๆ โดยไม่ให้ผู้บริโภครู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียด หรือเหมือนกำลังดูโฆษณาชวนเชื่อแบบที่เห็นกันบนทีวี หรือพวก pop-ups ยาเพิ่มขนาดกระตุ้นฮอร์โมน ที่เด้งขึ้นเห็นในหน้าเพจทั่วๆ ไป โดยการที่หว่านเมล็ด แบบที่ไม่ให้มีคนคิดว่าเราขายแหลก ขายเว่อร์วังนั้น ก็คือการให้ “Seeder” ปลอมตัวเป็นผู้บริโภค และพูดถึงสรรพคุณ ข้อดี – ข้อเสีย หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้า หรือเจ้าของแบรนด์กำหนดให้ เช่น การ Seeding ครีมกันแดดแบรนด์ A ซึ่งถ้าเราจะพรีเซนต์ และพูดถึงแต่แบรนด์นี้แบรนด์เดียว ผู้บริโภคก็จะจับได้ว่า เราเป็น “หน้าม้า” กำลังขายของอยู่นั่นเอง ดังนั้นนัก Seeder หัวใส จึงได้นำผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงของแต่ละแบรนด์ มาทดลองใช้ให้เห็นถึงข้อดี – ข้อเสีย ของแต่ละแบรนด์ รวมถึงพูดข้อเสียของแบรนด์เราด้วย แต่พูดในส่วนที่ผู้บริโภคทั่วไปไม่กังวลนั่นเอง เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือก และตัดสินใจด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น โดย Seeder แต่ละคนก็จะมีเทคนิค วิธีการใช้ภาษา หว่านล้อมแบบเนียนๆ ที่แตกต่างกันออกไปนั่นเองครับ้าใครไม่รู้ รีบคลิกเข้ามาดู เพราะถ้าไม่รีบดู เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณจะคุยกับเค้า ไม่…รู้…เรื่อง!


2.Influencer Marketing (Influencer): ต้องเป็นเธอ.. เบอร์ท็อปๆ เท่านั้น



ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คนเหล่านี้ก็คือ บุคคลที่มีชื่อเสียงบนโลกโซเชียล หรือเป็นผู้มีอิทธิพล ทุกคนรู้จักกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น เน็ตไอดอล นักรีวิวผลิตภัณฑ์ หรือเพจต่างๆ ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมหาศาล รวมไปถึงดารานักแสดง ก็หันมาทำอาชีพนี้กันมากมาย โดยลักษณะของการทำงานเป็น Influencer คือการนำเอาสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโฆษณา มารีวิว โพสต์ แชร์ หรือแม้แต่ขายพื้นที่โฆษณาบนเพจ หรือเว็บไซต์ของ Influencer ท่านนั้น แต่ไม่ใช่ว่าแค่ยื่นให้ไปขายก็จะขายนะ บุคคลเหล่านี้เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกสินค้า และทดลองใช้จริง เพื่อให้ได้ทราบถึงประสิทธิภาพของสินค้านั้นๆ ว่าเห็นผลจริงหรือไม่ หากไม่ดีจริง หรือไม่ถูกใจ ก็อดให้นางขายนะจ๊ะ ซึ่งราคาค่าตัวจะแปรผันตามชื่อเสียง และยอดวิวยอดไลค์ที่เพิ่มสูงขึ้น  นั่นหมายความว่า ถ้าคุณดังมาก ก็มีคนที่พร้อมจะทุ่มไม่อั้นกับคุณแบบ… ก็สวยๆ และ รวยมากอ่ะ ซึ่งถ้ายิ่งผลิตภัณฑ์นั้นเกี่ยวกับใบหน้าความงาม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงต่ออาชีพ ราคาก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก อีก อีกกก!

3.Content writer: เขียนเว่อร์ๆ ลูกค้าช๊อบชอบ



อีก 1 อาชีพที่ผมภูมิใจเสนอ เพราะเป็นอาชีพที่ผมทำอยู่ ตอนที่พิมพ์นี่ก็กำลังทำอยู่ นั่นก็คือ “Content writer” อาชีพแห่งนักปราชญ์ผู้รอบรู้นั่นเอง ว่าแต่ทำไมต้องมีความรู้เยอะล่ะ ก็แค่เขียนๆ เคาะแป้นต๊อกๆ ไปเองไม่ใช่เหรอ? เรามาดูกันว่า พวกเราต้องทำอะไรกันบ้าง

Research : หากเราจะนำเสนอเรื่องอะไรซักอย่างหนึ่ง เพื่อต้องการที่จะเขียน และเผยแพร่ออกไป เราต้องมั่นใจก่อนว่า สิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่ทุกคนคิดตรงกันหรือไม่ โดยการสอบถาม สำรวจ และหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดนั่นเองครับ
ขมวดข้อมูล : นำข้อมูลที่ Research ได้ มาวิเคราะห์ และสรุปให้เป็นภาษาของเรา หรือเป็นอะไรที่คนเข้าใจง่าย
สร้างสรรค์อย่างมีสไตล์ : งาน Design ก็มาจ้า… เขียนยังไงให้คนชอบ ให้คนอ่าน ใช้คำยังไงให้สละสลวย ใส่รูปอะไรยังไง บลาๆ สารพัดเทคนิคที่จะบรรเจิดได้
งานขาย คืองานเรา: หากเรารับงานเขียนให้กับแบรนด์ๆ หนึ่ง เราจะต้องเปรียบเสมือนแบรนด์นั้น ดั่งเป็นแบรนด์ของพ่อของแม่ หรือของเราเอง โดยต้องใช้กลยุทธ์ทุกอย่างในการที่จะขายไม่ว่าจะเป็นการโปรโมท หรือเชิญชวนชักจูงให้คนอยากซื้อด้วยภาษาที่เป็นมิตร

4.Blogger: รีวิวดีเว่อร์… เจอปุ๊ปซื้อปั๊บ



“บล็อกเกอร์” คืออาชีพที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่เพราะด้วยการที่ใครๆ ก็ทำได้น่ะสิ มันเลยทำให้อาชีพนี้มีความยากที่จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับของทุกคนบนโลกโซเชียลได้ ซึ่งการมีชื่อเสียงนั้น คือสิ่งที่สำคัญมาก สามารถสร้างมูลค่า สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับอาชีพนี้ โดยในปัจจุบันนี้ บล็อกเกอร์ได้แตกแขนงออกเป็น 4 ประเภทคือ 1. Beauty Blogger 2. IT Blogger 3.Travel Blogger 4. Food Blogger หรือ Life Style Blogger นั่นเอง ว่าแต่ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก ลองมาดูตัวอย่างบุคคลที่สร้างชื่อเสียงจากอาชีพนี้กัน

5.Online Marketing: ขายทุกอย่างตั้งแต่ Top-to-Toe



ในโลกออนไลน์ บุคคลเหล่านี้ คือผู้ที่สร้างยอดขายที่พุ่งปรี้ดให้กับแบรนด์ที่พวกเขาสังกัดอยู่ โดยหน้าที่ก็เน้นไปที่การขายสินค้าเป็นหลัก ดีลกับการขายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะบุกไปถึงรังของลูกค้า หรือตามไปในทางใดทางหนึ่ง และไม่ว่าสินค้าจะเป็นอะไร ยังไงเราก็ต้อง ขาย! ให้! ได้! แถมค่าคอมฯ ก็ยังสูงยิ่ง กดกริ่งความอยากขายเลยครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : hubvisor.com

คำถามต่อมาที่น้องอยากจะถามต่อ จากบทความข้างต้น 

แล้วต้องเรียนจบสาขาอะไร ? 
พี่ว่าคนทั่วไปสามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องมีใจรัก หมั่นฝึกฝน หาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ถ้ามองว่าแล้วเรียนอะไร ที่จะสามารถทำได้ทันทีเลย คงหนีไม่พ้น พวกสาขาด้านการตลาด , วารสาร , การจัดการธุรกิจดิจิทัล, เทคโนโลยีสารสนเทศ , ภาษา และสาขาที่เกี่ยวข้อง

บุคลิกภาพที่เหมาะสมกับสาขาอาชีพ
1. ทักษะการฟัง , การอ่าน และ สนใจสิ่งรอบตัว 
2. มีความชอบที่อยากเล่าเรื่อง

ถ้าน้องๆ สนใจสาขาอาชีพเหล่านี้ น้องๆ ก็ควรหมั่นฝึกทักษะ การอ่านและฟัง สนใจสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ นะคะ และที่สำคัญฝึกเล่าเรื่องให้กับคนใกล้ตัว หรืออาจจะลองเริ่มเขียนบล๊อกๆ เล็กของน้องเองก็ได้ค่ะ