สอบเข้ามหาวิทยาลัย

"ดาว์พงษ์” สั่งปรับหลักสูตรใหม่ ต้องแยกวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ออกมาเป็นรายวิชาเฉพาะ


"การุณ" ขานรับ "ดาว์พงษ์” ปูพรมทำ 6 งานเร่งด่วน ปรับหลักสูตรแยกวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ สั่งโรงเรียนฟื้นเด็กท่องสูตรคูณ-คิดเลขเร็ว-ท่องอาขยาน ทำป้ายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ยกระดับการสอน ม.ปลาย
 
 
UploadImage
 

วันนี้(5ก.ย.)นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายงานเร่งด่วนให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการ 6 เรื่อง คือ 1.การจัดทำหลักสูตรใหม่ ต้องแยกวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ออกมาเป็นรายวิชาเฉพาะ และจัดการเรียนการสอนแบบเข้มข้น ไม่ใช่รวมอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ทั้งนี้ การสอนวิชาประวัติศาสตร์ในส่วนที่ต้องการให้เด็กจำ จะต้องกำหนดให้นำไปออกข้อสอบในแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต และครูทุกคนต้องรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2.ยกระดับการจัดการเรียนการสอนในมัธยมศึกษาตอนปลายให้เข้มแข็ง เพื่อให้เด็กมีพื้นฐานการเรียนที่แน่นในการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น 3.ให้แต่ละสถานศึกษาจัดทำป้ายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ บอกสถานที่ต่างๆในโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ 4.เร่งฟื้นฟูการท่องสูตรคูณ คณิตคิดเร็ว และท่องอาขยาน ที่ขณะนี้กำลังเริ่มหายไป 5.กิจกรรมในช่วงเพิ่มเวลารู้ของโครงการ"ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ต้องมีการกำหนดกิจกรรมที่เด็กต้องเรียนไว้ด้วย ไม่ใช่มีเฉพาะให้เลือกเรียนเท่านั้น และ 6.ให้ปฏิรูประบบงบประมาณในปีงบฯ2560 โดยในส่วนของงบฯพัฒนาและฝึกอบรมครู ที่มีอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท นั้น งบฯจำนวน 80% จะต้องลงไปในพื้นที่ และให้พื้นที่เป็นผู้พิจารณาว่าควรอบรมครูในเรื่องใด โดยพิจารณาตามบริบทและความจำเป็นของแต่ละพื้นที่

“ การฟื้นฟูการเรียนการสอนในเรื่องต่างๆดังกล่าว จะทำให้เด็กมีพื้นฐานความรู้ที่แน่นขึ้น เช่น สูตรคูณ ก็จะเป็นพื้นฐานการคิดเลขเร็ว ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ฝึกทักษะสมอง การเรียนวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์เข้มข้นขึ้น จะทำให้เด็กรับรู้และตระหนักถึงความเป็นมาของชาติไทย รวมถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการพัฒนาต่างๆในแต่ละรัชกาล ทั้งนี้ วันที่ 6 กันยายน นี้ ผมจะเรียกประชุมผู้บริหาร สพฐ. เพื่อมอบงานให้แต่ละสำนักงาน พร้อมทั้งจะแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และกำชับไปยังสถานศึกษาเดินหน้าทั้ง 6 เรื่องในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ” นายการุณ กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์