สอบเข้ามหาวิทยาลัย

ชงบอร์ดคุรุสภาอนุโลมให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษามหา’ลัยรับนักศึกษาเกินไม่มาก

 UploadImage


“ไพฑูรย์” ชงบอร์ดคุรุสภาอนุโลมให้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา มหา’ลัยรับนักศึกษาเกินไม่มาก ส่วนมหา’ลัยที่รับเกินจำนวนมากโยนบอร์ดชี้ขาดเอง อึ้งมหา’ลัยอ้าง รับเกินเพราะไม่รู้ว่าต้องแจ้งสกอ. –คุรุสภา –สภามหา’ลัยรับทราบ

วันนี้ (3 ต.ค.)  ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะอนุกรรมการประเมินมาตรฐานหลักสูตร มาตรฐานการผลิตและมาตรฐานบัณฑิต ปริญญาระดับบัณฑิตศึกษา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้เชิญมหาวิทยาลัย 10 แห่ง ที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า รับนักศึกษาเข้าเรียนหลัก สูตรบริหารการศึกษา  ระดับบัณฑิตศึกษาเกินกว่าที่แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)รับทราบ มาชี้แจงด้วยวาจากับคุรุสภาอีกครั้ง หลังจากที่แต่ละแห่งส่งข้อมูลมาชี้แจงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งพบว่า ใน จำนวนทั้งหมด 10 แห่ง มี7 แห่งรับนักศึกษาเกินจริงแต่ไม่มาก ประมาณแห่ง 1 -2 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 30 คน โดยมหาวิทยาลัยยืนยันว่าสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ และมีการจ้างอาจารย์ผู้สอนเพิ่มเติมครบตามเกณฑ์ที่สกอ.กำหนด ส่วนอีก 3 แห่งพบว่า รับนักศึกษาเพิ่มค่อนข้างมากประมาณ 10 ห้องเรียนหรือ 300 คน  โดยทั้ง 3 แห่งชี้แจงว่าได้พยายามหาทางแก้ไขเพิ่มจำนวนอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้หลักสูตรมีความพร้อม
  
ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า  อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยบางแห่ง  บอกว่า ไม่ทราบจริง ว่าการรับนักศึกษาเพิ่มจะต้องแจ้งสกอ.และคุรุสภาก่อน  ที่สำคัญบางแห่งก็ไม่ทราบว่าต้องแจ้งให้สภามหาวิทยาลัยรับทราบด้วย ซึ่งคณะอนุกรรมการฯกำชับว่าต่อไปมหาวิทยาลัยต้องระมัดระวัง และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด จากนี้คณะอนุกรรมการฯจะสรุปคำชี้แจงทั้งหมดพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการฯ เสนอต่อคณะกรรมการคุรุสภา ที่มีพล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน เพื่อพิจารณาต่อไป

“ส่วนตัวมองว่า กลุ่มที่เปิดรับนักศึกษาเกินไม่มากน่าจะอนุโลมให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา แต่ก็ต้องกำชับว่า ต่อไปมหาวิทยาลัยจะต้องระมัดระวัง และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด  ส่วนมหาวิทยาลัยที่เปิดรับเกินจำนวนมากนั้น  ต้องให้ทางบอร์ดคุรุสภาเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์