สอบเข้ามหาวิทยาลัย

10 ประเทศ ที่มีประเพณีเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ในโลก

UploadImage


ควันหลงวันคริสต์มาสกันอีกสักหน่อย เมื่อพูดถึงประเพณีการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสของแต่ละประเทศ ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของการใช้ชีวิต ตำนานความเชื่อ รวมไปถึงสภาพอากาศของประเทศนั้นๆ ด้วยเช่นกัน วันนี้พี่จะขอพาน้องๆ ไปรู้จักกับ 10 ประเทศที่มีประเพณีการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ในโลก ไปดูกันว่ามีที่ไหนกันบ้าง ;)
 

UploadImage

1. แคนาดา : เด็กๆ จะฉลองคริสต์มาสในบรรยากาศที่มีหิมะขาวโพลน โดยในคืนวันคริสต์มาสอีฟพวกเขาจะวางนมและคุกกี้ไว้ข้างๆ เตาผิงให้ซานต้าและในบ้างครั้งอาจจะมีแครอทให้สำหรับกวางเรนเดียร์ทั้ง 9 ตัวด้วย
 

UploadImage

2. ไอซ์แลนด์ : ผู้คนจะให้ของขวัญคนในครอบครัวเป็นเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เพราะตามตำนานเล่าว่ามีแมวยักษ์คริสต์มาสผู้น่ากลัวที่จะเขมือบใครก็ตามที่ไม่เตรียมพร้อมสำหรับอากาศหนาว ผู้คนจึงช่วยกันทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครตกเป็นอาหารของเจ้าแมวยักษ์นั้นเอง


UploadImage

3. สหราชอาณาจักร : ทุกๆ คนจะเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานบนโต๊ะอาหารเย็นด้วยประทัดคริสต์มาส ที่มีลักษณะเป็นท่อห่อด้วยกระดาษสีสันสดใส โดยมีแถบสำหรับดึงติดอยู่ทั้ง 2 ด้าน เมื่อดึงแถบออกประทัดก็จะระเบิดพร้อมกับการกระจายตัวของสิ่งของด้านในประทัดไม่ว่าจะเป็น หมวกกระดาษ ของเล่น ลูกอม ฯลฯ


UploadImage

4. เยอรมนี : เกือบทุกๆ เมืองของที่นี่ จะมีตลาดคริสต์มาสเปิดขึ้นในทุกจัตุรัสของเมือง ให้ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อฟังดนตรีวงเครื่องเป่าทองเหลืองหรือว่าจะมาอิ่มอร่อยกับอาหารประจำภูมิภาค ซึ่งพวกเขาจะรับประทานขนมปังขิงรูปหัวใจ อัลมอนล์อบน้ำตาล ขนมหวานทุกประเภท และดื่มไวน์เครื่องเทศ (Glühwein) หรือน้ำแอปเปิลไปด้วย
 

UploadImage

5. ฟินแลนด์ : ชาวเมืองเชื่อว่า Joulupukki (ซานต้า) อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศบริเวณเทือกเขา Korvatunturi หากใครได้ไปแถวๆ นั้นอาจจะพบโรงงานลับของซานต้า ที่มีภูมิโนมกำลังทำงานอย่างหนัก หรือไม่ก็อาจจะพบกวางเรนเดียร์ออกมาเดินเล่นอยู่ในบริเวณป่าสนก็เป็นได้

6. รัสเซีย : เด็กชาวรัสเซียจะตกแต่งต้นปีใหม่แทนต้นคริสต์มาส พวกเขาจะเฝ้ารอ Grandfather Frost (ซานต้า) ที่เดินทางมากับ Snowmaiden หลานสาว เพื่อแจกของขวัญให้กับคนทั่วทั้งเมือง ซึ่งทั้ง 2 อาศัยอยู่ในป่าลึกใน Veliky Ustyug ทางตอนเหนือของรัสเซียตามความเชื่อ
 

UploadImage

7. กรีซ : มีความเชื่อกันว่าจะมีสิ่งมีชีวิตจอมป่วนแต่เป็นมิตร “Kallikántzari” ที่อาศัยอยู่ใจกลางแกนโลกเกือบทั้งปี แต่ในวันคริสต์มาสพวกมันจะขึ้นมาซ่อนในบ้านคนและแกล้งพวกเขาให้ตกใจหรือเขมือบอาหารคริสต์มาสจนเกลี้ยง ชาวกรีกจะทำพิธีเพื่อป้องกันตัววุ่นวายเหล่านี้ให้อยู่ห่างๆ บ้านพวกเขาให้การเฉลิมฉลองเป็นไปอย่างราบรื่น
 

UploadImage

8. เกาหลีใต้ : วันคริสต์มาสถือเป็นวันหยุดประจำชาติ อีกทั้งยังเป็นวันหยุดอันแสนโรแมนติกของคู่รักหลายๆ คู่ที่จะพากันมาออกเดทในเมืองที่ท้องถนน ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ถูกประดับประดาไปด้วยไฟต่างๆ มากมายราวกับเดินอยู่ในเทพนิยาย

9. ฟิลิปปินส์ : ที่นี่ได้ชื่อว่าจัดเทศกาลคริสต์มาสยาวนานที่สุดในโลก ซึ่งจะจัดเป็นเวลาถึง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม โดยชาวเมืองจะเปิดเพลงคริสต์มาสกันตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนกันเลยทีเดียว
 

UploadImage

10. ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ : ด้วยที่ตั้งทางซีกโลกใต้ จึงทำให้ที่นี่ในเดือนธันวาคมตรงกับหน้าร้อน ดังนั้นแทนที่จะได้รอฟังเสียงกระดิ่งรถเลื่อน จิบโกโก้ร้อนอยู่ในบ้าน แต่ชาวเมืองจะออกไปเฉลิมฉลองวันหยุดกันที่ชายหาด เล่นคริกเก็ต ทำบาร์บีคิว และทานมื้อกลางวันด้วยกันกลางแจ้งแทน


ขอบคุณข้อมูลจาก : santatracker