รากฟันเทียม'มช.'สุดเจ๋ง คว้านวัตกรรมแห่งชาติ

19 ต.ค. 58 16:06 น.

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คิดค้นรากฟันเทียมขนาดเล็ก สำหรับช่วยยึดฟันเทียมแบบถอดได้ ประหยัดค่าใช้จ่ายจากหลักหมื่น เหลือแค่หลักพันบาท คว้ารางวัลชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติ“


เมื่อวันที่ 19 ต.ค. รศ.ทพ.ดร.ปฐวี คงขุนเทียน ผอ.รพ.ทันตกรรม และผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางทันตกรรมรากเทียม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาค้นคว้าและสร้างสรรค์ผลงาน “รากฟันเทียมขนาดเล็กสำหรับช่วยยึดฟันเทียมแบบถอดได้” ซึ่งเป็นการพัฒนาจากรากฟันเทียมขนาดเล็กเพียง 2.75 - 3 มม. เพื่อให้คนไข้สามารถทำการใส่รากฟันเทียมแล้วเสร็จในครั้งเดียว ทำให้คนไข้เจ็บตัวน้อยลง การฟื้นตัวเร็วขึ้น ที่สำคัญราคาถูกลงมาก โดยรากฟันเทียมขนาดเล็กจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหัวที่ยึดกับฟันปลอม และส่วนลำตัวที่ยึดติดกับกระดูกกราม ซึ่งการใช้งานนั้นจะต้องมีการเปิดแผลขนาดเล็กเพื่อใส่ส่วนลำตัวยึดกระดูกกราม จากนั้นจะมีการติดตั้งส่วนหัวที่ยึดกับฟันปลอม ซึ่งสามารถ ใส่เข้า-ออก ถ้าหากส่วนหัวมีการสึกหรอจากการใช้งานก็สามารถเปลี่ยนส่วนหัวได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรื้อรากฟันเทียมทิ้งเหมือนเดิมอีก ทั้งยังดีกว่าเมื่อเทียบกับฟันปลอมแบบตะขอเกี่ยวซึ่งคนไข้มักไม่นิยม เนื่องจากเจ็บ หลุด เคลื่อนง่าย ไม่เสถียร หรือ หากเป็นรากฟันทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ก็ต้องใช้เวลานานในการรักษา เนื่องจากต้องผ่าเปิดแผลเพื่อใส่รากเทียมเจาะและเย็บปิด ก่อนรอเวลาอีกราว 3 เดือน เมื่อแผลหายดีแล้วจึงจะใส่ฟันเทียมได้“

นอกจากนี้ผลงาน “รากฟันเทียมขนาดเล็กสำหรับช่วยยึดฟันเทียมแบบถอดได้” ยังได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคม ประจำปี 2558 โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยนวัตกรรมดังกล่าวสามารถใช้เพื่อทดแทนรากฟันเทียมที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงในราคาไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาทต่อการรักษาเพียง 1 ซี่ แต่ผลงานรากฟันเทียมที่พัฒนาสำเร็จในครั้งนี้ มีราคาเพียงหลักพันบาท คนทั่วไปสามารถจ่ายได้ ช่วยให้ผู้ป่วยทันตกรรมมีโอกาสเข้าถึงการรักษามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้นวัตกรรมรากฟันเทียมนี้ ได้ส่งต่อให้กับบริษัท พีดับบลิว พลัส จำกัด ทำการตลาด โดยเป็นแบรนด์ไทยรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย รวมถึงในเอเชียที่มีมาตรฐานการผลิต ISO 13485 และผ่านการรับรองมาตรฐานของสหภาพยุโรปอีกด้วย.



เรื่องโดย เดลินิวส์
ภาพโดย เดลินิวส์