หน้าแรก เรียนธุรกิจดิจิทัล ข่าว/บทความ

รองหัวเรือใหญ่ Uber ลาออกสายฟ้าแลบ! ปัญหาที่สะสมมานานและแนวทางที่เดินไปด้วยกันไม่ได้อีกต่อไป

วันที่เวลาโพส 23 มีนาคม 60 16:45 น.
อ่านแล้ว 0
P' แพว AdmissionPremium

UploadImage
          จากข่าวค(ร)าวมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ ‘Uber (ประเทศไทย)’ กับคู่กรณีทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่ว่าจะเป็น กรมขนส่ง บริษัทขนส่งมวลชน แท็กซี่ รวมไปถึงที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตกับคู่กรณีเจ้าถิ่นอย่าง ‘รถแดง เชียงใหม่’ ที่ทาง Uber (ประเทศไทย) ได้เปิดให้บริการที่จ.เชียงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหา ในต่างประเทศ Uber ก็มีข่าวเสียๆ หายๆ ออกมาไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว ถึงจะไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการ แต่ ณ จุดๆ นี้ก็ส่งผลให้ผู้ใช้บริการในต่างประเทศลบแอพฯ Uber ออกจากมือถือของพวกเขามากถึง 200,000 รายเลยทีเดียวนะจ๊ะ (เยอะมากนะเนี้ย)
 

UploadImage

          แต่ความวัวยังไม่ทันหาย...ความบัฟฟาโล่ก็เข้ามาแทรก ว่าด้วยเรื่องการประกาศลาออกของ เจฟฟ์ โจนส์ (Jeff Jones) ประธานบริษัท ในวันที่ 19 มีนาคม 2560 แบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะเขาพึ่งดำรงตำแหน่งนี้ได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าแนวทางของเขาและบริษัทไม่สอดคล้องกัน ทั้งเรื่องของวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ รวมไปถึงการเติบโตของตัวเขาเองใน Uber เองก็มองแทบไม่เห็นเลย โดยเจฟฟ์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ผมเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะพันธกิจและเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ไบรอัน แมกเคลนดอน (Brian McClendon) รองประธานบริหารฝ่าย Maps and Business Platform ก็ได้ประกาศลาออกแบบสายฟ้าแลบตามมาแบบติดๆ เลยพ่อคุณเอ๊ย
 

UploadImage

          งานนี้ ทราวิส คาลานิก (Travis Kalanick) CEO Uber ที่เสียมือขวาในการกอบกู้ภาพลักษณ์ของบริษัทอย่างโจนส์ไปจะรับมือกับปัญหานี้อย่างไร? แต่ก็แอบได้ยินซุบซิบวงในกันมาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงขาลงของ Uber แล้วถึงแม้ว่าบริษัทจะมีมูลค่าสูงถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ความน่าเชื่อถือของบริษัทก็ถูกข่าวค(ร)าวต่างๆ โจมตีอย่างต่อเนื่อง จนทำให้นักลงทุนหลายรายกังวลว่าบริษัทจะยังสามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้เหมือนเดิมหรือเปล่า
 

UploadImage

          อย่างไรก็ตามศึกภายนอกยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ศึกภายในใหญ่หลวงกว่ายิ่งนัก จากข้อมูลทั้งหมดปัญหาและภาพลักษณ์แบรนด์ที่เสียไปของ Uber ส่วนใหญ่เกิดจากคนในของบริษัททั้งสิ้น อาทิ ไบรอัน แมกเคลนดอน ที่ได้ลาออกแล้ว เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฟ้องร้อง Waymo ข้อหาขโมยเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของ Google ซึ่งไบรอันเคยเป็นนักพัฒนา Google Maps Google Earth และ Google Street View มานานกว่า 10 ปี หรือเรื่องราวของรองประธานฝ่ายวิศวกรรม 2 คนที่ลาออกเนื่องจากถูกซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีล่วงละเมิดทางเพศวิศวกรหญิงของบริษัท เป็นต้น
 

UploadImage

          ถึงแม้จะมีแต่อุปสรรคมากมายหลายอย่าง แต่นี้อาจจะเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดีของ Uber ในการกอบกู้ชื่อเสียงของแบรนด์ให้ดีขึ้นจากการแก้ไขปัญหาภายในบริษัทก่อนก็เป็นได้ ก็ต้องมาคอยลุ้นกันว่า ‘Uber ธุรกิจ StartUp อันดับ 1 ของโลก’ จะกลับมายืนหยัดผงาดง้ำค้ำโลกดังเป็นพลุแตกอีกครั้งได้หรือไม่? คงต้องให้เวลาและการบริหารจัดการของบริษัทเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วล่ะค่ะ


ข้อมูลจาก : THE MOMENTUM
อ้างอิง : recodereutersnytimesbusinessinsider

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด