หน้าแรก คลังความรู้ การพัฒนาตนเอง

"Ultradian Rhythms - รู้จักจังหวะพลังงาน 90-120 นาทีของร่างกาย"

วันที่เวลาโพส 11 พฤศจิกายน 68 15:47 น.
อ่านแล้ว 0
พี่กองทัพ AP

เคยสังเกตไหมว่าบางช่วงอ่านหนังสือได้สมาธิดีมาก แต่พอผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่ง สมองก็เริ่มชา ไม่อยากทำอะไร? นี่ไม่ใช่เพราะคุณขาดวินัยหรืออ่อนแอ แต่เป็นเรื่องของ Ultradian Rhythms - จังหวะธรรมชาติของร่างกายที่วนซ้ำทุกๆ 90-120 นาที ซึ่งส่งผลต่อพลังงาน สมาธิ และประสิทธิภาพการทำงาน ถ้าเราเข้าใจและทำงานสอดคล้องกับจังหวะนี้ จะเรียนรู้ได้ดีขึ้นและไม่หมดไฟ

Ultradian Rhythms คืออะไร?

Ultradian Rhythms คือวงจรชีวภาพที่ซ้ำรอบน้อยกว่า 24 ชั่วโมง (Ultra = เกิน, dian = วัน)

เปรียบเทียบกับจังหวะอื่น:

  • Circadian Rhythm: 24 ชั่วโมง (กลางวัน-กลางคืน)
  • Infradian Rhythm: มากกว่า 24 ชั่วโมง (รอบเดือน)
  • Ultradian Rhythm: น้อยกว่า 24 ชั่วโมง (90-120 นาที)

ตัวอย่าง Ultradian Rhythms:

  • วงจรการนอน (REM/Non-REM ทุก 90 นาที)
  • ความหิว (ทุก 90-120 นาที)
  • BRAC - Basic Rest-Activity Cycle (ขณะตื่น)

BRAC: Basic Rest-Activity Cycle

ค้นพบโดย: Nathaniel Kleitman (1960s) - "บิดาแห่ง Sleep Research"

การค้นพบ: Kleitman สังเกตว่าระหว่างนอน มี REM-Non-REM cycle ทุก 90 นาที จากนั้นพบว่าขณะตื่นก็มีจังหวะคล้ายกัน!

BRAC ขณะตื่น:

[90-120 นาทีวนซ้ำ]

HIGH ENERGY (75-90 นาที)
    ↑
    | สมาธิดี
    | ทำงานได้เร็ว
    | คิดแก้ปัญหาได้ดี
    |
    ↓
LOW ENERGY (20-30 นาที)
    | สมาธิลดลง
    | เหนื่อย ง่วง
    | อยากพัก
    ↓
[วนซ้ำใหม่]

ทำไม Ultradian Rhythms ถึงเกิดขึ้น?

สาเหตุที่ 1: ระบบประสาทอัตโนมัติ

2 ระบบที่สลับกันทำงาน:

Sympathetic Nervous System (ตื่นตัว):

  • Fight-or-flight mode
  • Heart rate เพิ่ม
  • Cortisol, adrenaline สูง
  • ทำงาน ใช้สมาธิ
  • ใช้ได้ 90-120 นาที

Parasympathetic Nervous System (พักผ่อน):

  • Rest-and-digest mode
  • Heart rate ลด
  • ผ่อนคลาย
  • ซ่อมแซมร่างกาย
  • ต้องการ 20-30 นาที

ร่างกายไม่ได้ออกแบบให้ทำงานหนักต่อเนื่องนานๆ!

สาเหตุที่ 2: Brain Chemistry

Neurotransmitters มีจำกัด:

  • Dopamine (motivation)
  • Norepinephrine (alertness)
  • Acetylcholine (attention)

หลัง 90-120 นาที:

  • Neurotransmitters หมด → ต้องการเวลา replenish
  • Adenosine (ทำให้ง่วง) สะสม → ต้องการ clear
  • Glucose ในสมองลดลง → ต้องการ rest

สาเหตุที่ 3: Prefrontal Cortex Fatigue

Prefrontal cortex (สมองส่วนหน้า):

  • รับผิดชอบ: focus, decision-making, willpower
  • ใช้พลังงานมากที่สุดในสมอง
  • หมดแรงเร็ว!

หลังทำงาน 90 นาที:

  • PFC เหนื่อย
  • สมาธิลดลง
  • ตัดสินใจได้ช้าลง
  • ต้องการพัก 20 นาที เพื่อ recharge

งานวิจัยสำคัญ

การทดลอง 1: Peretz et al. (2011) - Performance Patterns

วิธีทดลอง: ให้ผู้เข้าร่วมทำ cognitive tasks ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง โดยวัด performance ทุก 15 นาที

ผลการทดลอง:

  • Performance สูงสุดใน 90 นาทีแรกของแต่ละ cycle
  • ลดลงอย่างชัดเจนในนาทีที่ 90-120
  • หลังพัก 20 นาที performance กลับมาสูงอีกครั้ง

สรุป: BRAC เกิดขึ้นจริง มีผลต่อ performance

การทดลอง 2: Ericsson et al. (1993) - Expert Performance

ศึกษา: นักไวโอลินระดับโลก ฝึกซ้อมอย่างไร?

ผลการศึกษา: นักไวโอลินระดับโลกฝึกซ้อม:

  • Session ละ 90 นาที (ไม่เกิน!)
  • พัก 20-30 นาทีระหว่าง session
  • รวมวันละ 3-4 sessions (ประมาณ 4-5 ชั่วโมงจริงๆ)

นักไวโอลินระดับปานกลาง:

  • ฝึกซ้อมต่อเนื่อง 3-4 ชั่วโมง
  • ไม่ค่อยพัก
  • ได้ผลแย่กว่า!

ข้อสังเกต:

  • Quality > Quantity
  • ทำงานสั้นแต่เข้มข้น ดีกว่า นานแต่ไม่มีประสิทธิภาพ

การทดลอง 3: Rossi & Nimmons (1991) - Ultradian Stress

พบว่า: คนที่ละเลย ultradian breaks จะมี:

  • Stress hormones สูงขึ้น
  • ประสิทธิภาพลดลง 20-30%
  • เสี่ยง burnout
  • ปัญหาสุขภาพระยะยาว

คำศัพท์: "Ultradian Stress Syndrome" = อาการที่เกิดจากฝืนทำงานต่อเนื่องโดยไม่ยอมพัก

วิธีใช้ Ultradian Rhythms ในการเรียน

กลยุทธ์ที่ 1: The 90-Minute Work Block

โครงสร้าง:

90 นาที: ทำงานเต็มที่ (Deep Work)
    ↓
20 นาที: พักจริงๆ (Real Break)
    ↓
[ทำซ้ำ]

90 นาที Deep Work:

  • เลือกงานหนึ่งอย่าง (single-task)
  • ปิดมือถือ, แจ้งเตือนทั้งหมด
  • ไม่เช็คโซเชียลมีเดีย
  • โฟกัสเต็มที่
  • จะรู้สึกเหนื่อยตอนนาทีที่ 80-90 = ปกติ!

20 นาที Real Break:

  • ไม่ใช่: ดูมือถือ, เล่นเกม, ดู Netflix
  • ควรเป็น:
    • เดิน (outdoor ถ้าได้)
    • Stretch/yoga เบาๆ
    • กินอาหารว่าง (ผลไม้, ถั่ว)
    • พูดคุยกับคน
    • หลับตาพัก
    • ไม่ทำอะไรเลย (ฟังเพลงช้าๆ)

ทำไมต้องเป็น "real" break:

  • ดูมือถือ = ยังใช้ prefrontal cortex → ไม่ได้พัก
  • ต้องให้สมองพักจริงๆ ถึงจะ restore

กลยุทธ์ที่ 2: Recognize Your Signals

สัญญาณว่าถึงเวลาพัก:

  • หาวบ่อยๆ
  • ต้องอ่านซ้ำๆ เพราะจำไม่ได้
  • มองออกหน้าต่างบ่อยขึ้น
  • หยิบมือถือขึ้นมา (โดยไม่รู้ตัว)
  • เริ่มง่วง หนักตา
  • หงุดหงิดง่ายขึ้น
  • ความคิดลอยไปไหนมาไหน

อย่าฝืน! สัญญาณเหล่านี้ = ร่างกายบอกว่า "ถึงเวลาพัก"

กลยุทธ์ที่ 3: Schedule Around Ultradian Rhythms

ตัวอย่างตารางเรียนวันหนึ่ง:

08:00-09:30 (90 min): อ่านหนังสือเนื้อหาใหม่ที่ยาก
09:30-09:50 (20 min): พัก - เดินรอบๆ, กินผลไม้
09:50-11:20 (90 min): ทำโจทย์คณิตศาสตร์
11:20-11:40 (20 min): พัก - ยืดตัว, ดื่มน้ำ
11:40-13:10 (90 min): เขียน essay
13:10-14:00 (50 min): กินข้าวเที่ยง + พักยาว
14:00-14:20 (20 min): Power nap (ถ้างีบได้)
14:20-15:50 (90 min): Review flashcards, ทำงานง่ายๆ
15:50-16:10 (20 min): พัก - เดินข้างนอก
16:10-17:40 (90 min): เรียนกลุ่ม/สอนเพื่อน

รวม: 6 ชั่วโมงเรียนจริงๆ ใน 9.5 ชั่วโมง แต่: มีคุณภาพสูงกว่าอ่าน 9 ชั่วโมงติดไม่พัก

กลยุทธ์ที่ 4: Adjust to Your Personal Rhythm

ไม่จำเป็นต้องเป็น 90 นาทีเป๊ะ!

บางคนมี cycle:

  • 75 นาที (สั้นกว่า)
  • 120 นาที (ยาวกว่า)

วิธีหา:

  1. สังเกตตัวเอง 1 สัปดาห์
  2. จดว่าทำงานได้กี่นาที ก่อนเริ่มเหนื่อย
  3. นั่นคือ cycle ของคุณ
  4. วางแผนให้เหมาะสม

กลยุทธ์ที่ 5: Ultradian Breaks ≠ Procrastination

ความแตกต่าง:

Ultradian Break (ดี):

  • พักตาม schedule
  • พักเพราะถึงเวลา (หลัง 90 นาที)
  • พักจริงๆ (ไม่ใช้สมอง)
  • กลับมาทำงานต่อตามแผน

Procrastination (ไม่ดี):

  • "พัก" เพราะไม่อยากทำงาน
  • พักก่อนเริ่ม หรือพักบ่อยเกินไป
  • "พัก" โดยดูมือถือ, เล่นเกม
  • ไม่กลับมาทำงาน

คีย์: ใช้ timer ตั้ง 90 นาที → พักเมื่อถึงเวลา (ไม่ใช่พักตอนอยากพัก)

กลยุทธ์ที่ 6: Types of Breaks for Different Needs

Physical breaks (ร่างกายเหนื่อย):

  • เดิน 10 นาที
  • Stretching
  • นั่งสมาธิ

Mental breaks (สมองเหนื่อย):

  • ปิดตาพัก
  • ฟังเพลงเบาๆ
  • มองธรรมชาติ (Nature effect!)

Social breaks (อยากมีปฏิสัมพันธ์):

  • คุยกับเพื่อน/ครอบครัว
  • โทรหาคนสนิท

Creative breaks (สมองจม):

  • เดินไร้เป้าหมาย
  • Doodle วาดภาพ
  • อาบน้ำ (ไอเดียมักมาตอนนี้!)

ข้อผิดพลาดที่มักเกิด

 ผิดพลาดที่ 1: ไม่ยอมพัก

ความคิด: "ฉันต้องอ่านหนังสือ 4 ชั่วโมงติด!"

ความจริง:

  • นั่งอ่าน 4 ชั่วโมงติด = เรียนได้จริง 2 ชั่วโมง (ที่เหลือนั่งเฉยๆ)
  • อ่าน 90 นาที, พัก 20, อ่านอีก 90 นาที, พัก 20 = เรียนได้จริง 3 ชั่วโมง

ประสิทธิภาพ:

  • แบบที่ 1: 4 ชั่วโมง = 2 ชม. มีประสิทธิภาพ (50%)
  • แบบที่ 2: 4 ชั่วโมง (รวมพัก) = 3 ชม. มีประสิทธิภาพ (75%)

 ผิดพลาดที่ 2: "พัก" โดยใช้มือถือ

Screen time ≠ Rest!

  • ดูโซเชียล, เล่นเกม = ยังใช้สมอง
  • Prefrontal cortex ยังทำงาน
  • ไม่ได้พักจริงๆ

ผลลัพธ์: รู้สึกว่าพักแล้ว แต่สมองยังเหนื่อยเหมือนเดิม

 ผิดพลาดที่ 3: พักยาวเกินไป

พักเกิน 30 นาที:

  • เข้าสู่ sleep inertia (ถ้างีบ)
  • Loss of momentum
  • ยากที่จะกลับมาทำงานต่อ

Sweet spot: 15-25 นาที

 ผิดพลาดที่ 4: ละเลยสัญญาณร่างกาย

ฝืนทำงานต่อแม้รู้สึกเหนื่อย:

  • ประสิทธิภาพลดลงมาก
  • ทำให้เกิด mistakes
  • สะสมเป็น chronic fatigue

จำไว้: ร่างกายฉลาดกว่าเรา รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องพัก

 ผิดพลาดที่ 5: คาดหวังว่าทุก cycle เท่ากัน

ความจริง:

  • Cycle แรกของวัน (เช้า) มักดีที่สุด
  • Cycle บ่าย อาจสั้นกว่า (75 นาที)
  • Cycle เย็น อาจต้องพักบ่อยขึ้น

Flexible: ปรับตามสภาพจริงของวัน

Ultradian Rhythms กับสิ่งอื่นๆ

+ Circadian Rhythm

Combined approach:

  • Circadian: บอกว่าช่วงไหนของวันทำงานได้ดี (เช้า vs บ่าย)
  • Ultradian: บอกว่าในช่วงนั้น ทำงานนานแค่ไหนแต่ละครั้ง

ตัวอย่าง:

  • เช้า (peak circadian): ทำ 3 cycles (90 min each) = 270 นาที
  • บ่าย (dip circadian): ทำ 2 cycles (75 min each) = 150 นาที

+ Pomodoro Technique

Pomodoro: 25 นาที work + 5 นาที break

Ultradian: 90 นาที work + 20 นาที break

ข้อแตกต่าง:

  • Pomodoro: สั้นกว่า เหมาะกับงานที่แบ่งได้ชัดเจน
  • Ultradian: ยาวกว่า เหมาะกับงานต้องการ deep focus ต่อเนื่อง

เลือกตามงาน:

  • งานต้องการ deep thought (อ่านหนังสือยาก, เขียน essay): Ultradian
  • งานเยอะๆ ทำเสร็จทีละอย่าง (flashcards, โจทย์ง่าย): Pomodoro

งานวิจัยเพิ่มเติม

Aserinsky & Kleitman (1953) - ค้นพบ REM sleep cycles (90 นาที)

Kleitman (1963) - ขยายไปสู่ BRAC ขณะตื่น

Rossi (1991) - "The 20-Minute Break" - หนังสือเกี่ยวกับ ultradian rhythms

Ericsson et al. (1993) - "Deliberate Practice" - expert performance และ 90-min sessions

สรุป

Ultradian Rhythms สอนเราว่า:

  1. ร่างกายมีจังหวะ 90-120 นาที - ทำงานได้ดีแค่นั้น แล้วต้องพัก
  2. ฝืนทำต่อ = inefficient - ทำได้แต่คุณภาพแย่
  3. พักจริงๆ = คีย์สำคัญ - ไม่ใช่แค่เปลี่ยนงาน

6 กลยุทธ์หลัก:

  1. 90-min work blocks - ทำงานเต็มที่ 90 นาที
  2. 20-min real breaks - พักจริงๆ ไม่ใช้สมอง
  3. Recognize signals - ฟังร่างกาย
  4. Schedule wisely - วางแผนให้เหมาะ
  5. Find your rhythm - หา cycle ของตัวเอง
  6. Quality breaks - เลือกกิจกรรมพักที่เหมาะสม

จำไว้: Work with your body, not against it! มนุษย์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำงานต่อเนื่องนานๆ เราออกแบบมาเพื่อทำงานสั้นๆ แต่เข้มข้น แล้วพัก แล้วทำต่อ 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ