สอบเข้ามหาวิทยาลัย
ราชภัฏแนะศธ.แบ่งโควตาล็อคป.ตรีให้ชัดเจน
วันที่เวลาโพส
06 ก.ย. 59 18:20 น.
ราชภัฏ ห่วงเคลียริ่งเฮาส์ 2 รอบ ทำเด็กไหลเข้ามหา’ลัยเก่าแก่หมด แนะแบ่งโควตาล็อคป.ตรีชัดเจน ให้มหา’ลัยเก่าแก่ หันมุ่งป.โท-เอก สอนเต็มเวลา ไม่ใช่ภาคพิเศษ
วันนี้( 6 ก.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ( ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษารูปแบบใหม่ ว่า จากการหารือร่วมกับ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และ ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) มีความเห็นร่วมกัน ว่าควรจะต้องปรับแก้ระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในถาบันอุดมศึกษาใหม่ แต่จะเป็นรูปแบบใดนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากในส่วนของมรภ. และมทร. ยังมีข้อกังวล ว่าการรับเด็กในรูปแบบใหม่ ตามแนวทางที่ทปอ.เสนอ จะไปกระทบ ทำให้ไม่สามารถรับเด็กเข้าเรียนได้ ตรงตามเป้าหมาย ดังนั้นจึงขอกลับไปหารือ ซึ่งตนก็ได้ขอให้นายประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะเลขาธิการทปอ. ไปทำความเข้าใจกับที่ประชุมทปอ.มรภ. และทปอ.มทร.
ส่วนกรณีที่ทปอ.มรภ. ขอเปิดรับตรงในช่วงเวลาเดิมเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนั้น ทางมรภ.เองก็ยังตอบคำถาม ไม่ชัดเจนว่า ทำไม่ต้องขอเปิดรับตรงในช่วง เวลาดังกล่าว จึงอยากให้มรภ. ไปหาเหตุผลที่ชัดเจนให้ได้ก่อน สำหรับกรณีที่ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ระบุว่า การรับนักศึกษาระบบใหม่ ไม่ควรล็อคให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องเข้าร่วม เพราะมหาวิทยาลัยยอดนิยมก็จะได้เด็กเก่ง ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็อาจจะได้เด็กไม่ตรงกับที่ต้องการนั้น เป็นสิทธิที่จะคิดได้ แต่ทุกอย่างต้องดูภาพรวม
ด้าน ดร.พงศ์ หรดาล อธิการบดีมรภ.พระนคร กล่าวว่า ที่ผ่านมามรภ.ก็รับเด็กต่อจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เพราะค่านิยมคนไทย ยังยึดติดอยู่กับมหาวิทยาลัยเก่าแก่ แม้มหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่จะพยายามพัฒนาศักยภาพ ก็ยังไม่เป็นที่นิยม อีกทั้งในอนาคต จำนวนเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยจะน้อยลง ขณะที่จำนวนที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มีมากขึ้นและหากกำหนด ให้มีการเคลียริ่งเฮาส์ 2 รอบ เด็กจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ. ก่อน จะมีเด็กเหลือไปมหาวิทยาลัยอื่น ๆ จำนวนน้อยมาก ดังนั้นควรมีการกำหนดโควตาการรับเด็กของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ชัดเจน และตนอยากให้มหาวิทยาลัยรัฐกลุ่มเก่า หันไปเน้นการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและเอกที่เข้มข้นขึ้น โดยจัดการเรียนการสอนแบบเต็มเวลา เช่นเดียวกับการสอนในระดับปริญญาตรี ไม่ใช่เปิดสอนเป็นหลักสูตรพิเศษ เรียนเสาร์ อาทิตย์อย่างเช่นปัจจุบัน ซึ่งตนจะเสนอให้มีการกำหนดโควตาการรับเด็ก ของมหาวิทยาลัยกลุ่มต่าง ๆ ในที่ประชุมทปอ.มรภ.ในวันที่ 30 ก.ย. นี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์
วันนี้( 6 ก.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ( ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษารูปแบบใหม่ ว่า จากการหารือร่วมกับ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และ ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) มีความเห็นร่วมกัน ว่าควรจะต้องปรับแก้ระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในถาบันอุดมศึกษาใหม่ แต่จะเป็นรูปแบบใดนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากในส่วนของมรภ. และมทร. ยังมีข้อกังวล ว่าการรับเด็กในรูปแบบใหม่ ตามแนวทางที่ทปอ.เสนอ จะไปกระทบ ทำให้ไม่สามารถรับเด็กเข้าเรียนได้ ตรงตามเป้าหมาย ดังนั้นจึงขอกลับไปหารือ ซึ่งตนก็ได้ขอให้นายประเสริฐ คันธมานนท์ รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะเลขาธิการทปอ. ไปทำความเข้าใจกับที่ประชุมทปอ.มรภ. และทปอ.มทร.
ส่วนกรณีที่ทปอ.มรภ. ขอเปิดรับตรงในช่วงเวลาเดิมเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนั้น ทางมรภ.เองก็ยังตอบคำถาม ไม่ชัดเจนว่า ทำไม่ต้องขอเปิดรับตรงในช่วง เวลาดังกล่าว จึงอยากให้มรภ. ไปหาเหตุผลที่ชัดเจนให้ได้ก่อน สำหรับกรณีที่ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ระบุว่า การรับนักศึกษาระบบใหม่ ไม่ควรล็อคให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องเข้าร่วม เพราะมหาวิทยาลัยยอดนิยมก็จะได้เด็กเก่ง ขณะที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ก็อาจจะได้เด็กไม่ตรงกับที่ต้องการนั้น เป็นสิทธิที่จะคิดได้ แต่ทุกอย่างต้องดูภาพรวม
ด้าน ดร.พงศ์ หรดาล อธิการบดีมรภ.พระนคร กล่าวว่า ที่ผ่านมามรภ.ก็รับเด็กต่อจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เพราะค่านิยมคนไทย ยังยึดติดอยู่กับมหาวิทยาลัยเก่าแก่ แม้มหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่จะพยายามพัฒนาศักยภาพ ก็ยังไม่เป็นที่นิยม อีกทั้งในอนาคต จำนวนเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยจะน้อยลง ขณะที่จำนวนที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มีมากขึ้นและหากกำหนด ให้มีการเคลียริ่งเฮาส์ 2 รอบ เด็กจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ. ก่อน จะมีเด็กเหลือไปมหาวิทยาลัยอื่น ๆ จำนวนน้อยมาก ดังนั้นควรมีการกำหนดโควตาการรับเด็กของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ชัดเจน และตนอยากให้มหาวิทยาลัยรัฐกลุ่มเก่า หันไปเน้นการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและเอกที่เข้มข้นขึ้น โดยจัดการเรียนการสอนแบบเต็มเวลา เช่นเดียวกับการสอนในระดับปริญญาตรี ไม่ใช่เปิดสอนเป็นหลักสูตรพิเศษ เรียนเสาร์ อาทิตย์อย่างเช่นปัจจุบัน ซึ่งตนจะเสนอให้มีการกำหนดโควตาการรับเด็ก ของมหาวิทยาลัยกลุ่มต่าง ๆ ในที่ประชุมทปอ.มรภ.ในวันที่ 30 ก.ย. นี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์
