สอบเข้ามหาวิทยาลัย

“บิ๊กหนุ่ย”เชื่อรวมอาชีวะรัฐ-เอกชนเป็นผลดี

UploadImage


"ดาว์พงษ์"แจง ใช้ ม.44 ควบรวมอาชีวะรัฐเอกชนเป็นเรื่องดีในการพัฒนาคุณภาพอาชีวศึกษาให้ไปในทิศทางเดียวกัน แถมช่วยลดภาระงานของภาครัฐด้วย 

       วันนี้ (17 ก.พ.)  พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ“  ศึกษาธิการ กล่าวถึงการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.2559 ว่า ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้รายงานแผนการทำงาน 4 ระยะ คือ ระยะแรก ช่วง 2สัปดาห์ สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ต้องเร่งดำเนินการโอนภารกิจต่าง ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มายัง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ระยะที่ 2 เดือนมีนาคม – เมษายน 2559 เป็นระยะเวลาที่ผู้เรียนกำลังสำเร็จการศึกษา  ระยะที่ 3 เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นช่วงระยะเวลาที่ผู้เรียนใหม่เริ่มต้นภาคเรียนใหม่อาชีวะรัฐและเอกชนจะเข้ามาร่วมกันทำงานเต็มที่ และ ระยะที่ 4 เดือนตุลาคม 2559 การดำเนินการตามปีงบประมาณ 2560

      รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านก็ยังมีการทำงานตามปกติไปก่อน โดยวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในภูมิภาค เลขาธิการ กอศ.ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) และผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่  สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล เป็นผู้ดูแล ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะเป็นผู้ดูแล และเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 จะปรับรูปแบบให้อาชีวศึกษาเอกชนทั้งหมดขึ้นตรงกับ สอศ.และใช้กลไกอาชีวศึกษาระดับจังหวัดเป็นตัวประสานและขับเคลื่อนงาน “


      เมื่อรวมอาชีวะรัฐและเอกชนเข้าด้วยกันจะเกิดข้อดีในการพัฒนาอาชีวศึกษาให้เป็นเนื้องานเดียวกัน เช่น  ระดับจังหวัดเดิมคุยกันแค่ในกลุ่มวิทยาลัยอาชีวะรัฐต่อไปเอกชนก็จะเข้ามาร่วมมากขึ้น ซึ่งแนวทางนี้จะส่งผลดีต่ออาชีวะเอกชนแน่นอน และผมมองไปถึงอนาคตด้วยว่าต่อไปอาชีวะรัฐและเอกชนก็ไม่ต้องแย่งตลาดกันเอง และในช่วงแรกอาจจะมีคนเห็นต่างบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้ สอศ.เร่งสร้างความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้อง เพราะเรื่องนี้เป็นข้อเสนอมาจากทางวิทยาลัยอาชีวะเอกชนเอง ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ ๆ ศธ.นั่งคิดขึ้นมา และผมมองว่าการพัฒนาการศึกษาของประเทศต่าง ๆ นั้น ถ้าเราสนับสนุนให้ภาคเอกชนแข็งแรงได้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยลดภาระของภาครัฐได้มากเท่านั้น โดยเฉพาะถ้าสนับสนุนให้เขาทำและอยู่ ภายใต้กรอบทิศทางของรัฐบาลได้ด้วยยิ่งเกิดผลดี” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
UploadImage
UploadImage

แหล่งข้อมูล :  http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/042/3.PDF