สอบเข้ามหาวิทยาลัย

10 ข้อที่ควรรู้ก่อนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน

UploadImage       
       "ประเทศจีน" นับได้ว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และด้วยจำนวนประชากรในประเทศและการย้ายถิ่นฐานของชาวจีนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทำให้ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีการใช้กันมากที่สุดภาษาหนึ่ง และได้รับให้เป็นหนึ่งในภาษาราชการของโลกด้วย ทั้งนี้มาตรฐานการศึกษาที่สูงขึ้นของไทย ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว ทำให้ภาษาจีนเป็นที่นิยมและมีการศึกษากันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาดงานของประเทศไทย "วันนี้พี่จะบอก 10 ข้อที่ควรรู้ก่อนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน"

1.ไม่ต้องมีพื้นฐานภาษาจีน ก็เรียนที่จีนได้

       ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีน เปิดหลักสูตรปริญญาแบบอินเตอร์-ภาษาอังกฤษ หลักสูตรอินเตอร์ของทุกมหาวิทยาลัย จะบรรจุ วิชาภาษาจีน เพื่อให้เรามีความรู้ทางภาษาจีน เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันในเมืองจีนได้ และถ้าหากไม่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือคะแนนทดสอบระดับภาษาจีน (HSK) ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ คือ HSK4 สำหรับปริญญาตรี สามารถเรียนคอร์สภาษาจีน เพื่อปรับภาษาจีนของเราก่อนที่จะเริ่มเรียนได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะว่าที่นี่คือเมืองจีน อยู่เมืองจีนภาษาจีนสำคัญที่สุด

2.ค่าเล่าเรียนไม่แพง

       ค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาตรีที่เมืองจีน คิดเป็นรายปีแล้วค่อนข้างถูก ถ้าเทียบกับประเทศอื่น และยังมีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาอีกเป็นจำนวนมากโดยไม่มีข้อผูกมัด อย่างเช่น ทุนการศึกษารัฐบาลจีน ทุนการศึกษาของสถาบันขงจื่อ ,ทุนการศึกษาของมณฑลหรือเมือง ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย เป็นต้น

3.สภาพอากาศหลากหลาย

       สภาพอากาศที่เมืองจีน ในฤดูหนาวก็จะหนาวจัด ฤดูร้อนก็จะร้อนจัด โดยเฉพาะทางเหนือของประเทศจีน ส่วนทางใต้ อากาศค่อนข้างโอเค สำหรับคนไทย ไม่หนาวมากจนเกินไป พอทนได้ และยังมีหิมะให้ได้เห็นอีกด้วย อย่างไรก็ตามสภาพอากาศที่จีนเปลี่ยนแปลงบ่อย ใน 1 วัน อาจมีครบทั้ง ฝน ลม แดด หนาว บางครั้งตอนเช้าแดดออกอยู่ดีดี แต่พอกลางคืนหิมะตกซะอย่างนั้น เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย และอีกอย่างหนึ่งที่ควรระวังคือ ปัญหาฝุ่นควัน ในเมืองจีน อย่าอายที่จะใส่หน้ากากป้องกัน เพราะสุขภาพของเราสำคัญที่สุด

4.ห้ามใช้สื่อโซเซียล

       ในประเทศจีนมีการห้ามใช้สื่อโซเซียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Google Gmail Youtube Twitter Line (อาจใช้ได้บน Android)  Instagram และบริการออนไลน์ยอดฮิตอื่นๆ ถูกบล็อกในเมืองจีน โดยจะถูกแทนที่ด้วยบริการของคนจีน อย่าง Renren Baidu 126.com Youku Weibo WeChat QQ ถ้าหากเราต้องการใช้บริการที่ถูกบล็อก เราต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า VPN

5.สวรรค์ของการช็อปปิ้งและท่องเที่ยว

       สินค้าเมืองจีนค่อนข้างถูก มีหลายเกรด หลายราคาให้เราเลือกซื้อ ถ้าหากเราเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าทั่วไป เราต้องอย่าอายที่จะต่อราคา เพราะพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน มักตั้งราคาสูงเกินจริง โดยเฉพาะหากรู้ว่าเราเป็นต่างชาติ ส่วนการท่องเที่ยวที่ประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน ทั้งท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ แนวธรรมชาติ แนวสมัยใหม่ ดังนั้นอย่ามัวเรียนอย่างเดียว ควรเดินทางท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ในเมืองจีนบ้าง โดยเฉพาะการเป็นนักศึกษา เราสามารถใช้บัตรนักศึกษาลดราคาได้

6.การแซงคิวเป็นเรื่องปกติ

       การถูกคนจีนเหยียบเท้า เดินชน ผลัก ทั้งขณะเดิน โหนรถเมล์ รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือแม้กระทั่งเข้าลิฟต์ โดยเฉพาะ “การแซงคิว” ขอให้มีความอดทนอดกลั้น และเข้าใจนิสัยของคนจีน เพราะพวกเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่มีใครใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ เนื่องจากจำนวนประชากรจีนค่อนข้างเยอะ และทุกคนต้องเร่งรีบต่อเวลา ดังนั้นการกระทบกระทั่ง การชนกัน ถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่ และมักจะไม่มีคำขอโทษออกมา แต่ถ้าหากเราส่งเสียงโวยวายออกมาสักนิด และแสดงตัวว่าเป็นชาวต่างชาติ คนจีนส่วนใหญ่ก็จะรีบขอโทษเราโดยทันที ถือเป็นการให้เกียรติกัน

7.เสียงดังเป็นเรื่องปกติ

       เสียงดังเป็นเรื่องปกติของคนจีน ในความเชื่อของคนจีน เสียงดังมากๆ ยิ่งจริงใจ และยิ่งสนิทสนม แต่เสียงดังบนท้องถนนจากการบีบแตร นั่นไม่ใช่ว่าคนจีนสนิทสนมกันนะ แต่เป็นเรื่องปกติของที่เมืองจีนในชั่วโมงเร่งรีบ ซึ่งในความเป็นจริง ดูเหมือนจะรีบตลอดเวลา เพราะด้วยประชากรที่หนาแน่น รถก็ติดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

8.กับดักระเบิด "น้ำลาย"

       บนทางเดินเท้าที่ประเทศจีน หากเห็นคนกำลังชาร์จพลัง ขาก......มาแต่ไกล ให้รีบหลีกเลี่ยงทันที มิเช่นนั้นอาจจะโดนน้ำลายของคนที่บ้วนออกมา การถ่มน้ำลายของคนจีนถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เรามักพบเห็นกันทั่วไปเป็นประจำ แต่ในปัจจุบันจากการสังเกตุการถ่มน้ำลายของคนจีนเริ่มลดน้อยลงไปบ้างเล็กน้อย

9.คนจีนชอบคนไทย

       คนจีนส่วนใหญ่ ชอบคนไทย ดาราไทย สินค้าไทย สถานท่องเที่ยวไทย ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่เราคนไทยจะผูกมิตรกับคนจีน และเมื่อคนจีนรู้ว่าเราเป็นคนไทย มักทักทายเราด้วย “สวัสดีค่ะ” ไม่ว่าคนจีนที่พูดจะเป็นหญิงหรือชาย เนื่องจากไม่ทราบความแตกต่างระหว่าง “ค่ะ” กับ “ครับ” และให้เกียรติเราอย่างเต็มที่

10."ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

       การเรียนและการใช้ชีวิตที่เมืองจีนต้องยึดถือคติ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” โดยเฉพาะการเรียน จะไม่มีการจ้ำจี้จ้ำไชแบบที่เมืองไทย หากเรามีข้อสงสัยอะไร ต้องการรู้อะไร เราต้องถาม ไม่ควรอาย เพราะหากเราไม่ถาม ก็จะไม่มีใครบอกเรา และเตรียมใจไว้สำหรับการบอกเรื่องสำคัญล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการให้แน่ใจจริงๆ เพราะที่เมืองจีนมีคติประจำใจ “การรักษาหน้า” คือจะกลัวเสียหน้าเมื่อบอกผิด และกลัวว่าหากปฏิเสธไปตรงๆ ว่า ไม่รู้ จะทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก ดังนั้นสำหรับคนจีนการเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด

       สภาพความเป็นอยู่ที่ประเทศจีนไม่ได้แย่อย่างที่ใครหลายคนคิด ภายในตัวเมืองและย่านที่มีมหาวิทยาลัยนั้นค่อนข้างที่จะสะอาด เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยทำความสะอาดตลอด รวมถึงเทศกิจที่มักจะตรวจตรา คอยไล่พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ อยู่เป็นประจำ ความปลอดภัยมากพอสมควร มีกล้องวงจรปิดตามท้องถนนและสถานที่ต่างๆ รวมถึง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยตรวจตรายามค่ำคืน "อย่าตัดสินอะไรโดยที่ยังไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง" หลายคนอาจมองว่าเมืองจีนสกปรก ไม่ปลอดภัย แต่ก็มีหลายคนที่หลงรักประเทศจีน เรียนจบไปแล้วและยังกลับมาที่ประเทศจีนอีกหลายครั้ง!