หน้าแรก เรียนธุรกิจเรือสําราญ รุ่นพี่ธุรกิจเรือสําราญ

ประสบการณ์ใหม่ รีวิวท่องเที่ยวล่องเรือสำราญในไทย

วันที่เวลาโพส 30 มีนาคม 61 15:07 น.
อ่านแล้ว 0
พี่กิ๊ง กรวีร์
เรือสำราญ Super Star Gemini เปิดประสบการณ์ใหม่ ของการล่องเรือสำราญบนน่านน้ำไทย อะไรไม่ตื่นเต้นเท่าได้ขึ้นไปสัมผัสความใหญ่โตของเรือลำนี้ ความสนุกได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ก้าวขึนบนเรือไม่มีเบื่อทั้งทริป ตลอด 4 วัน 3 คืน เมื่อ 3-6 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมานี่เอง ทริปที่เราไปนี่คือ ล่องเรือสำราญ แหลมฉบัง-สีหนุวิลล์ (กัมพูชา)-เกาะสมุย-แหลมฉบัง ซึ่งเรือสำราญ Super Star Gemini เป็นเรือสำราญที่อยู่ในฝูงเรือ Star Cruises ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมือนเดินทางกับโรงแรมเคลื่อนที่ อาหารตลอดการเดินทางวันละ 5 มื้อ สวนน้ำใหญ่ที่ดาดฟ้าเรือ การแสดงโชว์ที่ตระการตามาก

ซูเปอร์สตาร์เจมิไน เป็นหนึ่งในฝูงเรือสตาร์ครุซที่ให้บริการในเส้นทางเอเชียจนเป็นที่คุ้นเคยของคนไทย (ปัจจุบันประจำการอยู่ที่สิงคโปร์ ให้บริการในเส้นทางสิงคโปร์-มาเลเซีย) และในเดือนธันวาคม 2560 - เมษายน 2561 เรือเจมิไนลำนี้ จะมาให้บริการที่แหลมฉบังประเทศไทย โดยล่องในเส้นทาง แหลมฉบัง - กัมพูชา 

เริ่มเดือน ธันวาคม 2560 วันที่ 3-6 / 10-13 / 17-20
เดือน มกราคม 2561 วันที่ 07-10/14-17/21-24/28-31
เดือน กุมภาพันธ์ 2561 วันที่ 04-07/11-14/18-21/25-28
เดือน มีนาคม 2561 วันที่ 04-07/11-14/18-21/25-28
เดือน เมษายน 2561 วันที่ 01-04/08-11/15-18/22-25

มาทำความรู้จักกับ Super Star Gemini ลำนี้ แพ็คเก็จการเดินเรือครั้งนี้ของเราที่ไปคือ 4 วัน 3 คืน แหลมฉบัง-สีหนุวิลล์ (กัมพูชา)-เกาะสมุย-แหลมฉบัง ในราคาเริ่มต้นคนละ 12,900* บาทค่ะ โดยจะมีรถบัสรับส่งจาก กทม. ไปยังท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง แต่หากใครต้องการขับรถไปเอง ไปจอดไว้ใกล้ๆ ท่าเรือ ก็จะเสียค่าจอดทริปละ 500 บาท

เรือลำยักษ์ใหญ่โดดเด่นสง่าอยู่เบื้องหน้า สูงถึง 12 ชั้น ชั้น 13 คือดาดฟ้า และสนามบาส มีห้องพักมากถึง 765 เคบิ้น จำนวนผู้โดยสาร 1,530 ท่าน ซึ่งการขึ้นเรือที่ล่องไปยัง สีหนุวีล์ จะเหมือนกับการขึ้นเครืองบิน ออกนอกประเทศ ที่ต้องใช้พาสปอร์ต และสแกนสัมภาระต่างๆ รวมถึงกรอกใบขออนุญาตเข้าออกกัมพูชา จากนั้นทางเรือก็จะยึดพาสสปอร์ตเราไว้ จะคืนให้ต่อเมื่อมีการเช็คเอาท์ และชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นบนเรือ ซึ่งสกุลเงินที่ใช้จ่ายบนเรือคือ ใช้สิงคโปร์ดอลลา พอเช็คอินแล้วจะได้รับคีย์การ์ดที่จะระบุเลขที่ห้องพัก ชื่อคนเข้าพักที่ตรงกับพาสปอร์ตที่แจ้งไว้ ไว้สำหรับแสดงสิทธิ์ในการเข้าห้องอาหารต่างๆ ที่รวมอยู่ในแพ็คเก็จ เรียกว่า การ์ดใบเดียว เดินเที่ยวเรือได้ทั้งลำ

ภาพจาก : www.starcruises.com

ทางเดินระหว่างบันไดและห้องพักจะปูด้วยพรมแดง บางชั้นก็จะเป็นพรมสีน้ำเงิน จะไปชั้นไหนๆ ก็จะมีลิฟท์ให้ด้วย ลิฟท์มีอยู่สองจุด หัวและท้ายเรือ เมื่อเช็คอินกันแล้ว ได้รับการ์ดก็เข้ามาในห้องพักกันเลยค่า ห้องเราพรมสีน้ำเงินนะ ภายในเรือ Super Star Gemini ห้องพักจะเหมือนโรงแรมทั่วไป ติดเครื่องปรับอากาศทั้งลำด้วย มีห้องน้ำ มีหน้าต่างให้มองวิวได้  ภายในห้องไม่มีตู้เย็น มีทีวี ที่เป็นรายการบันเทิงต่างๆ และช่องของเรือเองด้วย  พอเอาสัมภาระเก็บไว้ห้องพัก เวลานั้นจะมีพนักงานมาเคาะเรียกประตูค่ะ เพราะให้เราไปที่จุดรวมพลชั้น 7 กัน ระหว่างนี้คือห้ามถ่ายรูป เพราะเป็นการอธิบายการใช้ชูชีพ หรือความปลอดภัยต่างๆ บนเรือลำนี้ อธิบายเหมือนอยู่บนเครื่องบินแบบนั้นเลยค่ะ

มื้อเย็นได้เริ่มขึ้นบนเรือแบบบุฟเฟต์ ด้วยการใช้คีย์การ์ดทำรายการที่เคาน์เตอร์ และหมายเลขที่นั่งโต๊ะอาหารไปลิ้มลองกัน ห้องอาหารบนเรือมีทั้งหมด 11 ห้อง (ห้องอาหารที่รวมในราคาแพคเกจมี 3 ห้อง Mariner / Dynasty / Bella Vista) ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะไปทานห้องไหนก็ได้ค่ะ ใน 3 ห้องนี้ฟรีๆ ที่รวมในแพ็คเก็จที่เราจ่ายมา แต่ห้องอาหาร Mariner ส่วนมากเกือบครึ่งหนึ่งของห้องอาหาร จะเน้นอาหารมังสวิรัติ และอาหารอินเดียซะส่วนใหญ่   เพราะพ่อครัว หรือกุ๊กส่วนมากบนเรือที่เห็นส่วนมากชาวอินเดียแท้ๆ ที่มาทำงานบนเรือลำนี้

ภาพจาก : www.starcruises.com

ห้องอาหาร Mariner ชั้น 9 มีมุมบริการถ่ายภาพเป็นชุดกัปตัน มุมสวยๆ บนเรือ แต่ต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก และเป็นมุมเฉพาะไม่ให้ลูกค้าคนอื่นๆ ไปถ่ายได้ค่ะ บนเรือยังมีคอฟฟี่ช้อป รวมทั้งศูนย์การค้า ดิวตี้ฟรีในราคาพิเศษอีกด้วย  แต่เห็นบรรดาของต่างๆ ล้วนเป็นแบรนด์ที่ต่างรู้จักกันดี 

ห้องโชว์ Star Dust มี 1 ห้องใหญ่มาก รองรับได้ถึง 600 ท่าน โชว์คืนละ 2 รอบ การแสดงโชว์แบบอลังการ ทึ่งกับความสามารถสุดๆ  และมีความบันเทิงสุดๆ เหมือนได้มาเที่ยวพักผ่อน ที่สนุกจริงๆ  แต่การแสดง 2 รอบต่อคืนนั้นหมดไป จะมีโปรแกรมเซอร์ไพรส์แบบพิเศษ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น การแสดงปาร์ตี้ชุดนอน เอาใจคนนอนดึกหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกัน 

ภาพจาก : www.starcruises.com

วันที่ 2  ช่วงที่เราไปเป็นช่วงพายุเข้า  ณ เวลานั้นคือ ฝนตกหนัก  หลังจากกินข้าวเที่ยงและได้รับแจกจ่ายเสื้อกันฝน จะมีรถบัสมารอรับวิ่งไปรอบๆ เมืองสีหนุวิลล์ ระหว่างทางมีฝนหยุดบ้างสลับกับตก รถบัสมาหยุดที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองพระสีหนุ  ตามด้วยไปเดินตลาดช้อปปิ้งกัน  มาสีหนุวีลล์ แลนมาร์คทีสำคัญคือ ชายทะเลหาดทรายสีขาว พร้อมกับรูปปั้นสิงโตทอง แต่ไม่สามารถเก็บภาพถ่ายรูปไรมาได้เพราะเวลานั้น ฝนตกหนักมากไม่สามารถลงจากรถได้เลย รอเวลากลับขึ้นสู่เรือ Super Star Gemini พร้อมกับแล่นออกจากท่าเรือน้ำลึกสีหนุวีลล์ ในเวลา 1 ทุ่มตรง กับแสงสียามเย็น ของสระว่ายน้ำตรงกลางเรือ พร้อมสายฝนยังโปรยอยู่ตลอดทาง

วันที่ 3 ฝนตกหนักมาก เวลานั้น คืออิสระของการพักผ่อน ใครจะนั่งเรือเล็กเข้าเกาะสมุยก็ได้  ส่วนเรานี่ นอนกลางวันบนเรือค่่า สบายมาก และ 1 ทุ่มตรงวันที่ 3 เรือก็ออกจากเกาะสมุย กลับมายังแหลมฉบัง คืนนี้เป็นการต่อสู้กับพายุที่โหดสุดของเรา เรือโครงอย่างเห็นได้ชัดมาก แต่เช้าวันกลับฟ้าดันใสปิ้ง เราจึงมีเวลามาถ่ายภาพเล่น เก็บภาพเพิ่มเติมบริเวณภายนอกเรือ ระหว่างอยู่บนเรือ เราสามารถใช้ไวไฟได้นะ แต่คิดค่าบริการต่างหาก  สัญญาณอ่อนแรงมากด้วยเวลาอยู่ในห้องพัก จะมีสัญญาณก็ต่อเมืออยู่พื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น อัตราค่าเชื่อมต่อไวไฟ 4 วันประมาณ 1200 บาทค่ะ 


ที่มา : https://th.readme.me

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด