สอบเข้ามหาวิทยาลัย
เภสัชฯ มข. รับ 180 ที่นั่ง ใช้ TGAT ในรอบ Admission
วันที่เวลาโพส
11 ก.ย. 68 10:10 น.
อ่านแล้ว
308
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ประกาศจำนวนรับ 180 คน ทั้ง 3 รอบ และได้ประกาศเกณฑ์การรับออกมาด้วย จะเห็นได้ว่าปีนี้ไม่ได้เข้าร่วมกสพท. จึงทำให้ในรอบ Admisson มีการใช้คะแนน TGAT มาร่วมด้วย
รอบที่ 1: Portfolio (1-10 ตุลาคม 2568)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 25 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2568
- มีผลการศึกษาที่มีคะแนนสะสมเฉลี่ยตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จนถึงวันที่สมัคร ไม่น้อยกว่า 3.50
- มีผลคะแนนกลุ่มสาระการเรียนรู้ในกลุ่มคณิตศาสตร์ กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกลุ่มภาษาต่างประเทศ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.00 ในแต่ละกลุ่ม
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
การคัดเลือกแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน
1. การพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) คิดเป็น 50% ประกอบด้วย
- ข้อมูลส่วนตัวและผลการเรียน (GPAX)
- ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชา คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และภาษาอังกฤษ
- ผลงานด้านวิชาการ เช่น รางวัลการแข่งขันระดับภูมิภาคขึ้นไป การเข้าร่วมค่ายโอลิมปิกวิชาการ
- คะแนนภาษาอังกฤษมาตรฐาน (ถ้ามี)
- เรียงความ "เหตุผลที่ต้องการเข้าศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น"
- หนังสือแนะนำตัวจากครู
2. การสอบสัมภาษณ์ คิดเป็น 50% ประเมินใน 4 ด้าน
- บุคลิกภาพ (20%)
- ทักษะการสื่อสาร (30%)
- ทักษะการแก้ปัญหา/การคิดเชิงวิพากษ์ (30%)
- ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น/ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (20%)
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต โครงการพิเศษ (จำนวนรับ 25 คน)
คุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกเหมือนหลักสูตรปกติ แต่มีความแตกต่างในส่วนของ:
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 45,000 บาท/ภาค
- ค่ารายงานตัวและขึ้นทะเบียน: 2,000 บาท (ครั้งเดียว)
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต โครงการพิเศษนานาชาติ (จำนวนรับ 40 คน)
แบ่งการรับออกเป็น 2 รูปแบบ
1. ผู้สมัครจากโรงเรียนหลักสูตรสามัญ
- คุณสมบัติเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ
- เพิ่มเติม: ต้องมีหนังสือรับรองผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น TOEFL ≥52 (IBT), IELTS ≥5.0, TOEIC ≥500
- การสัมภาษณ์ใช้ภาษาอังกฤษ โดยทักษะการสื่อสารคิดเป็น 40%
2. ผู้สมัครจากโรงเรียนนานาชาติหรือสถานศึกษาต่างประเทศ
- จบ Grade 12 หรือเทียบเท่า มี GPAX ≥3.00 ตั้งแต่ Grade 10
- ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ≥3.00 หรือผลสอบ A-Level, IB, AP Subject Tests
- หนังสือรับรองผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น TOEFL ≥65 (IBT), IELTS ≥5.5, TOEIC ≥650
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 65,000 บาท/ภาค
- ค่ารายงานตัวและขึ้นทะเบียน: 10,000 บาท (ครั้งเดียว)
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
รอบที่ 2: โควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (2-11 มีนาคม 2569)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 30 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปี 2568
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
1. การสอบ NETSAT (ความฉลาดในการเรียนรู้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
- SAT1 (ความฉลาดรู้ทั่วไป): การอ่านการเขียนภาษาอังกฤษ (20%) + คณิตศาสตร์ (20%)
- SAT2 (ความฉลาดรู้เฉพาะด้าน): เคมี (30%) + ฟิสิกส์ (10%) + ชีววิทยา (20%)
- เกณฑ์ผ่าน: คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30
2. การสอบสัมภาษณ์ ประเมิน 6 หัวข้อ ต้องผ่าน 4 ข้อ
- วัดทัศนคติในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
- ความตั้งใจจริงในการเข้าศึกษา
- บุคลิกภาพ
- ทักษะการสื่อสาร
- ทักษะการแก้ปัญหา
- ทักษะทางสังคม
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: ตามประกาศมหาวิทยาลัย
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 11-15 พฤษภาคม 2569
โครงการพิเศษและโครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน)
โครงการพิเศษ (จำนวนรับ 10 คน)
- คุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ
- ค่าเทอม: 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท
โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน) (จำนวนรับ 15 คน)
- เงื่อนไขพิเศษ: ต้องมีชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของโครงการ
- เมื่อสำเร็จการศึกษาต้องไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญา
- ค่าเทอม: 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท
โครงการพิเศษนานาชาติ (จำนวนรับ 15 คน)
- คุณสมบัติและเกณฑ์เช่นเดียวกับรอบ Portfolio
- แต่ในการสัมภาษณ์ ทักษะการสื่อสารจะคิดเป็น 40%
- ค่าเทอม: 65,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 10,000 บาท
รอบที่ 3: Admissions (6-12 พฤษภาคม 2569)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 5 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- จบมัธยมศึกษาตอนปลายหรือกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้าย คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปี 2568
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
1. การสอบที่จัดสอบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
- TGAT 90 ความถนัดทั่วไป (20%)
- วิทยาศาสตร์: A-Level Physics (15%), Chemistry (20%), Biology (20%) รวม 40%
- A-Level คณิต 1 (20%)
- A-Level อังกฤษ (20%)
- เกณฑ์ผ่าน: คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30
2. การสอบสัมภาษณ์ ประเมิน 6 หัวข้อ ต้องผ่าน 4 ข้อ (เช่นเดียวกับรอบอื่น)
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: ตามประกาศ ทปอ.
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 9-13 มิถุนายน 2569
โครงการพิเศษและโครงการอื่น ๆ (จำนวนรับรวม 15 คน)
แบ่งเป็น:
- โครงการพิเศษ: 5 คน (ค่าเทอม 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท)
- โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน): 5 คน (เงื่อนไขเช่นเดียวกับรอบ 2)
- โครงการพิเศษนานาชาติ: 5 คน (ค่าเทอม 65,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 10,000 บาท)
**การทำสัญญาชดใช้ทุน**
ผู้ได้รับการคัดเลือกทุกโครงการจะต้องทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาเภสัชศาสตร์ตามมติคณะรัฐมนตรี หากไม่ปฏิบัติตามสัญญา จะต้องชดใช้ทุนตามที่ระบุไว้
สรุปจำนวนการรับทั้งหมด
- หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต: 60 คน
- โครงการพิเศษ: 40 คน
- โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน): 20 คน
- โครงการพิเศษนานาชาติ: 60 คน
รวม 180 คน
ดูระเบียบการ คลิกที่นี่
รอบที่ 1: Portfolio (1-10 ตุลาคม 2568)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 25 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2568
- มีผลการศึกษาที่มีคะแนนสะสมเฉลี่ยตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จนถึงวันที่สมัคร ไม่น้อยกว่า 3.50
- มีผลคะแนนกลุ่มสาระการเรียนรู้ในกลุ่มคณิตศาสตร์ กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกลุ่มภาษาต่างประเทศ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.00 ในแต่ละกลุ่ม
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
การคัดเลือกแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน
1. การพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) คิดเป็น 50% ประกอบด้วย
- ข้อมูลส่วนตัวและผลการเรียน (GPAX)
- ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชา คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และภาษาอังกฤษ
- ผลงานด้านวิชาการ เช่น รางวัลการแข่งขันระดับภูมิภาคขึ้นไป การเข้าร่วมค่ายโอลิมปิกวิชาการ
- คะแนนภาษาอังกฤษมาตรฐาน (ถ้ามี)
- เรียงความ "เหตุผลที่ต้องการเข้าศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น"
- หนังสือแนะนำตัวจากครู
2. การสอบสัมภาษณ์ คิดเป็น 50% ประเมินใน 4 ด้าน
- บุคลิกภาพ (20%)
- ทักษะการสื่อสาร (30%)
- ทักษะการแก้ปัญหา/การคิดเชิงวิพากษ์ (30%)
- ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น/ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (20%)
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต โครงการพิเศษ (จำนวนรับ 25 คน)
คุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกเหมือนหลักสูตรปกติ แต่มีความแตกต่างในส่วนของ:
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 45,000 บาท/ภาค
- ค่ารายงานตัวและขึ้นทะเบียน: 2,000 บาท (ครั้งเดียว)
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต โครงการพิเศษนานาชาติ (จำนวนรับ 40 คน)
แบ่งการรับออกเป็น 2 รูปแบบ
1. ผู้สมัครจากโรงเรียนหลักสูตรสามัญ
- คุณสมบัติเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ
- เพิ่มเติม: ต้องมีหนังสือรับรองผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น TOEFL ≥52 (IBT), IELTS ≥5.0, TOEIC ≥500
- การสัมภาษณ์ใช้ภาษาอังกฤษ โดยทักษะการสื่อสารคิดเป็น 40%
2. ผู้สมัครจากโรงเรียนนานาชาติหรือสถานศึกษาต่างประเทศ
- จบ Grade 12 หรือเทียบเท่า มี GPAX ≥3.00 ตั้งแต่ Grade 10
- ผลการเรียนเฉลี่ยรายวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ≥3.00 หรือผลสอบ A-Level, IB, AP Subject Tests
- หนังสือรับรองผลสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น TOEFL ≥65 (IBT), IELTS ≥5.5, TOEIC ≥650
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: 1,000 บาท
- ค่าเทอมการศึกษา: 65,000 บาท/ภาค
- ค่ารายงานตัวและขึ้นทะเบียน: 10,000 บาท (ครั้งเดียว)
- รายงานตัว: 16-20 กุมภาพันธ์ 2569
รอบที่ 2: โควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (2-11 มีนาคม 2569)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 30 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปี 2568
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
1. การสอบ NETSAT (ความฉลาดในการเรียนรู้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
- SAT1 (ความฉลาดรู้ทั่วไป): การอ่านการเขียนภาษาอังกฤษ (20%) + คณิตศาสตร์ (20%)
- SAT2 (ความฉลาดรู้เฉพาะด้าน): เคมี (30%) + ฟิสิกส์ (10%) + ชีววิทยา (20%)
- เกณฑ์ผ่าน: คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30
2. การสอบสัมภาษณ์ ประเมิน 6 หัวข้อ ต้องผ่าน 4 ข้อ
- วัดทัศนคติในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
- ความตั้งใจจริงในการเข้าศึกษา
- บุคลิกภาพ
- ทักษะการสื่อสาร
- ทักษะการแก้ปัญหา
- ทักษะทางสังคม
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: ตามประกาศมหาวิทยาลัย
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 11-15 พฤษภาคม 2569
โครงการพิเศษและโครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน)
โครงการพิเศษ (จำนวนรับ 10 คน)
- คุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกเช่นเดียวกับหลักสูตรปกติ
- ค่าเทอม: 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท
โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน) (จำนวนรับ 15 คน)
- เงื่อนไขพิเศษ: ต้องมีชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของโครงการ
- เมื่อสำเร็จการศึกษาต้องไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญา
- ค่าเทอม: 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท
โครงการพิเศษนานาชาติ (จำนวนรับ 15 คน)
- คุณสมบัติและเกณฑ์เช่นเดียวกับรอบ Portfolio
- แต่ในการสัมภาษณ์ ทักษะการสื่อสารจะคิดเป็น 40%
- ค่าเทอม: 65,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 10,000 บาท
รอบที่ 3: Admissions (6-12 พฤษภาคม 2569)
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (จำนวนรับ 5 คน)
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- จบมัธยมศึกษาตอนปลายหรือกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้าย คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในปี 2568
- มีความประพฤติดี
- ไม่เป็นโรคตามประกาศของสภาเภสัชกรรม
เกณฑ์การคัดเลือก
1. การสอบที่จัดสอบโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
- TGAT 90 ความถนัดทั่วไป (20%)
- วิทยาศาสตร์: A-Level Physics (15%), Chemistry (20%), Biology (20%) รวม 40%
- A-Level คณิต 1 (20%)
- A-Level อังกฤษ (20%)
- เกณฑ์ผ่าน: คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30
2. การสอบสัมภาษณ์ ประเมิน 6 หัวข้อ ต้องผ่าน 4 ข้อ (เช่นเดียวกับรอบอื่น)
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมัคร: ตามประกาศ ทปอ.
- ค่าเทอมการศึกษา: 25,000 บาท/ภาค
- รายงานตัว: 9-13 มิถุนายน 2569
โครงการพิเศษและโครงการอื่น ๆ (จำนวนรับรวม 15 คน)
แบ่งเป็น:
- โครงการพิเศษ: 5 คน (ค่าเทอม 45,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 2,000 บาท)
- โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน): 5 คน (เงื่อนไขเช่นเดียวกับรอบ 2)
- โครงการพิเศษนานาชาติ: 5 คน (ค่าเทอม 65,000 บาท/ภาค + ค่ารายงานตัว 10,000 บาท)
**การทำสัญญาชดใช้ทุน**
ผู้ได้รับการคัดเลือกทุกโครงการจะต้องทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาเภสัชศาสตร์ตามมติคณะรัฐมนตรี หากไม่ปฏิบัติตามสัญญา จะต้องชดใช้ทุนตามที่ระบุไว้
สรุปจำนวนการรับทั้งหมด
- หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต: 60 คน
- โครงการพิเศษ: 40 คน
- โครงการร่วมผลิตเภสัชกร (ชุมชน): 20 คน
- โครงการพิเศษนานาชาติ: 60 คน
รวม 180 คน
ดูระเบียบการ คลิกที่นี่
