หน้าแรก You're Number One #เธอคือที่1 มหาวิทยาลัยรัฐ

รวิสรา โล่สุวรรณกุล เด็กสายศิลป์ที่กลัวการไม่เป็นตัวเอง จบนิเทศฯ แต่กลับมาสอบติด กสพท.

วันที่เวลาโพส 05 เมษายน 64 20:59 น.
อ่านแล้ว 0
ทีมงาน AdmissionPremium
การตัดสินใจไล่ตามความฝันในวัยเด็กใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ทุกคน ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าผิดหรือถูก แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไรลงไป

“ ชีวิตวัยไหนก็ไม่ง่าย ” อย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่าการสอบแอดมิชชั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายคนเลือกคณะตามฝัน แต่ก็มีไม่น้อยได้คณะตามคะแนน แต่ก็ไม่เป็นไร ขอให้ติดไว้ก่อนเป็นพอ แต่เอาเข้าจริง ได้เจอคณะหรือการเรียนที่ไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ อยากจะซิ่วใหม่ก็ยาก ต้องคิดมากและคิดหนักกว่า แล้วนับประสาอะไรกับคนที่เรียนจบได้ปริญญาเรียบร้อยเตรียมตัวออกมาสู่โลกการทำงาน ก็ยิ่งมีทางเลือกที่จะเก็บความฝันวัยเด็กเอาไว้แล้วอยู่กับชีวิตจริงในปัจจุบันดีกว่า

แน่นอนว่าการตัดสินใจไล่ตามความฝันในวัยเด็กใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ทุกคน ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าผิดหรือถูก แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไรลงไป เราอยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องราวและบทสัมภาษณ์ของเธอคนนี้ก่อน แน่นอนว่าเรื่องนี้จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกรณีตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการเรียนและการใช้ชีวิตตามฝันสำหรับทุกคนได้อย่างดี


 UploadImage

“รวิสรา โล่สุวรรณกุล” หรือ “โน้ต” บัณฑิตสาวจากคณะนิเทศศาสตร์ เด็กแผนการเรียนศิลป์-ภาษา ซึ่งตัดสินใจเริ่มเรียนตามฝันที่ละทิ้งไปนานอีกครั้ง ด้วยการสอบผ่าน กสพท. ปี 2560 ได้เป็นว่าที่ นิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หลังจากพยายามอย่างหนักมา 3 ปี ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"โน้ต" เล่าว่า  “ อยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ตอนวัยรุ่นก็มีช่วงที่ตั้งคำถามกับตัวเองกับโลก กลัวการไม่เป็นตัวเองแบบสุดโต่ง ใครบอกให้ไปทางซ้ายจะไปทางขวาเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่ต้องตามใคร ซึ่งทุกคนก็บอกว่าเป็นหมอดูเหมาะกับเรา ต้องเรียนสายวิทย์เลยนะ กลายเป็นว่าแทนที่จะเรียนหมอตามที่ตัวเองอยากทำ โน้ตเลยมองว่าหรือที่จริงยังมีอะไรอีกเยอะที่น่าสนใจกว่า แล้วก็ดื้อหนีไปเรียนสายศิลป์เสียเลย

พอเบี่ยงมาสายศิลป์ก็เรียนตามที่สนใจมาเรื่อยๆ เก็บความฝันที่อยากเป็นหมอไว้เงียบๆ พอมาช่วงปลายปี 3 รู้ว่าสายศิลป์ก็มีสิทธิสอบหมอผ่านระบบ กสพท. ก็ดีใจนะที่เขาเปิดกว้าง แต่เรายังสนุกกับการเรียนนิเทศฯ และคิดว่าน่าจะมีงานที่เหมาะกับเรา จนใกล้เรียนจบเห็นเพื่อนๆ หลายคนมีเป้าหมายชัดเจน ไฟแรงมาก เตรียมจะพุ่งตัวออกไปสู่โลกการทำงานแล้ว แต่โน้ตยังเคว้ง อยากเป็นอะไรก็ตอบตัวเองชัดๆ ไม่ได้ มีแต่เรื่องเรียนหมอที่เราแน่ใจมาตลอด ถึงตอนนี้เลิกดื้อกับตัวเองแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะสอบหมอ คุยกับครอบครัวว่าโอเคไหม ครอบครัวก็สนับสนุนในสิ่งที่เราอยากเป็นก็ถึงเวลาสู้ ”



UploadImage

เด็กสายศิลป์ที่ต้องมาสอบกสพท. แข่งกับเด็กสายวิทย์ ยิ่งยากกว่า
“ ถ้าในวัยของโน้ตคือจบปริญญาตรีมาแล้ว ไม่ได้คิดว่ายากไปกว่าการเตรียมตัวของคนจบสายวิทย์มา แต่ถ้าเป็นตอนที่เรียน ม.ปลายอยู่สายศิลป์ ก็จะต้องไปเรียนเพิ่มหรือศึกษาวิชาสายวิทย์เอง โน้ตว่าหนักประมาณนึงเลยนะ ต้องใช้พลังกายและพลังใจมหาศาล ไหนจะค่าเรียนพิเศษอีกล่ะ ถ้าใครยังอยู่ ม.4 แล้วรู้ตัวเองว่าอยากเรียนคณะทางสายวิทย์ก็จะแนะนำให้เริ่มเรียนม.4 สายวิทย์ใหม่เลยค่ะ 



การเตรียมตัวสอบ มีเคล็ดลับยังไงบ้าง
“ การเตรียมตัว อย่างแรกเลยคือ ประเมินตัวเองว่ายังไม่รู้อะไร จะเรียนอะไรเพิ่มบ้าง หรือมีส่วนไหนที่อ่านหนังสือเองได้ แพลนเรื่องตารางเวลาไว้คร่าวๆ ว่าควรจะเก็บเนื้อหาจบเมื่อไหร่ ควรเว้นระยะให้กลับมาทบทวนกับทำข้อสอบเก่าก่อนสอบเท่าไหร่ แล้วก็ลุยเลย แต่สิ่งสำคัญ 2 อย่างคือต้องมีวินัยกับตัวเองมากๆ และรักษาพลังใจตัวเองให้ดีๆ ”


เรียนจบป.ตรี แล้ว และพลาดสอบครั้งแรกไป เป็นคนอื่นก็อาจจะยอมแพ้ แต่สิ่งที่ทำให้เรายังสู้ต่อ คือ?
“ โน้ตเชื่อว่า ความสำเร็จจะเป็นของคนที่พยายามมากพอ และเชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะทำได้ด้วย แต่ต้องไม่ใช่พยายามสะเปะสะปะ และก็ไม่ใช่หลอกตัวเองว่าสุดท้ายก็จะทำสำเร็จ ทั้งที่วันนี้เรายังไม่ได้เรื่องอยู่เลย คืออย่าติดกับดักความมั่นใจของตัวเอง วันที่ได้สัมผัสความล้มเหลวแล้วยอมรับกับตัวเองว่า เออ วันนี้เราห่วยมากนะ ต้องแก้ใหม่แล้วล่ะ คือยอมรับตัวเองได้โดยที่ไม่เสียเซลฟ์หรือเสียความมั่นใจไปเลย แต่เรามั่นใจแบบมีสติมากขึ้น ”


ระหว่างทางที่เตรียมตัวสอบ ช่วงเวลาไหนที่ยากที่สุด
“ ตอนที่เห็นเพื่อนๆ ทำงานมีเงินเป็นของตัวเองค่ะ ยิ่งปีแรกที่เรียนจบนี่เห็นเพื่อนเงินเดือนออก ไปกินข้าว ไปเที่ยวต่างประเทศทีโน้ตกลับมานั่งน้ำตาตก ถามตัวเองว่านี่ทำอะไรอยู่ อายุยี่สิบกว่าแล้วยังมานั่งเรียนพิเศษกับเด็กๆ อีก ให้เงินที่บ้านก็ไม่ได้ ทั้งเฟลทั้งรู้สึกผิด

แต่พอได้ไปทำงานมีเงินกับเขาบ้างถึงได้รู้ว่าภาพที่เคยจินตนาการไว้ไม่ใช่สิ่งที่โน้ตต้องการขนาดนั้น และจุดที่เติมเต็มชีวิตจากการทำงานของเพื่อนเราก็คงไม่ใช่แค่ได้เอาเงินไปเที่ยวสนุกๆ กินอะไรอร่อยๆ เหมือนกัน ชีวิตมันต้องมีมากกว่านี้ เราอยากจะทำในสิ่งที่เราเชื่อและเห็นคุณค่าของมันมากกว่าแค่ได้เงิน ซึ่งทางครอบครัวก็อยากให้โน้ตได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็นเหมือนกัน แล้วก็พร้อมสนับสนุน โน้ตเลยผ่านจุดที่ยากที่สุดนั้นมาได้ ”




ขอบคุณข้อมูลจาก  : thematter.co และ www.cleothailand.com
ขอบคุณรูปภาพจาก  : FACEBOOK : Rawisara Losuwankul 

 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด