สอบเข้ามหาวิทยาลัย

5 เทคนิคปลดล็อคตัวตน ค้นหาและพัฒนาตัวเองเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

 
เพราะเส้นทางการพัฒนาตัวเองไปจนถึงการสร้างอนาคตสร้างรายได้ มีอยู่มากมายรอบตัวเรา โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงความรู้ผ่านเทคโนโลยี และ Internet แต่การจะประสบความสำเร็จหรือมีความสุขกับสิ่งที่เลือกได้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องๆ ด้วยว่าจะไขว่คว้าและพัฒนาตัวเองไปได้แค่ไหน

ถ้าหากเรารู้จักวิธีการยกระดับศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่ ก็จะนำไปสู่บันไดขั้นสำคัญในการประกอบอาชีพและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ได้ ดังนั้น ในบทความนี้ เราขอนำเสนอ 5 เทคนิคปลดล็อคศักยภาพของตัวเอง เพื่อค้นพบความสามารถเด็ดที่ซ่อนอยู่ ซึ่งน้องๆ สามารถปรับใช้แนวทางเหล่านี้กับทุกๆ เรื่องในชีวิตได้



1. เตรียมสุขภาพร่างกายให้ฟิต พร้อมรับทุกสถานการณ์
การมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นพื้นฐานของสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ในเมื่อเราจำเป็นต้องใช้ร่างกายและสมองในการเรียนหรือทำงานเพื่อหารายได้และสร้างชีวิตที่ดี ก็ต้องบำรุงร่างกายให้ดีไปด้วย น้องๆ ต้องพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่บ่อนทำลายสุขภาพที่ดี ทั้งความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แล้วก็ลองเริ่มหันมารักและดูแลตัวเองบ้าง หาเวลาไปออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีด ใช้เวลาพักผ่อนไปกับงานอดิเรกที่รัก มองโลกในแง่ดี สร้างทัศนคติบวกให้ชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้นเอง


2. เปิดใจรับสิ่งใหม่ เก็บความล้มเหลวไว้เป็นบทเรียน
อ่านหนังสือไม่ทัน คะแนนสอบไม่ดีอย่างที่หวัง จัดลำดับกิจกรรมและการเรียนไม่ดี...แม้ความผิดหวังและผิดพลาดในอดีตอาจทำให้เราเจ็บปวด แต่ก็ขอให้น้องๆ เก็บมันไว้เป็นบทเรียนและเป็นประสบการณ์เพื่อย้ำเตือนตัวเองไม่ให้ผิดพลาดแบบนั้นอีก และสิ่งสำคัญที่สุดคือ น้องต้องกล้าที่จะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเอง บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าไม่ชอบ ไม่ถนัด แต่ได้ลองศึกษาและเปิดใจทำอาจจะทำได้ดีก็ได้ และมันอาจทำให้เราพบความท้าทายใหม่ ที่จะกระตุ้นให้เราพัฒนาทักษะของตัวเองที่ซ่อนเร้นอยู่ก็ได้


3. ติดตามข่าว รู้ทันกระแส และเหตุการณ์ปัจจุบัน
น้องๆ เคยเห็นไหมว่าเพื่อนคนที่สนใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่เสมอจะดูฉลาดและได้เปรียบคนอื่นหลายอย่าง เช่น รู้ว่าเทรนด์อะไรกำลังอยู่ในความสนใจของคนหมู่มากเพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ก่อนคนอื่น เพื่อนคนนี้หากเจอข้อสอบความรู้ทั่วไปหรือสังคมศาสตร์ก็สามารถตอบคำถามได้สบายๆ หรือหากอยากหาคณะสาขาที่เรียนต่อแล้วมีอนาคตสดใส ก็จะทราบว่าสายงานไหนกำลังมาแรง ยิ่งโลกปัจจุบันสถานการณ์เหตุการณ์ทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบถึงกันหมดทั้งโลก เพราะฉะนั้นการที่สนใจติดตามข่าวสารต่างๆ อยู่เสมอ ก็จะทำให้เราได้ความคิดเห็น มุมมองที่โต และกว้างไกลมากขึ้นด้วย เจ๋งเนอะ


4. วิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อยของตัวเอง
ปัญหาที่น้องๆ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับชั้น มักเจออยู่เสมอก็คือ "การไม่รู้จักตัวเอง" พอมีคนถามว่า น้องถนัดหรือชอบวิชาไหน? น้องเก่งอะไรแล้วอนาคตอยากเป็นอะไร? เชื่อเลยว่าน้องๆ ก็ตอบไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าตัวเองถนัดหรือเหมาะที่จะเรียนอะไร จบมาแล้วจะทำเป็นอะไร รู้อย่างเดียวคือ ทุกอย่างดูมืดแปดด้านไปหมด ทำให้น้องหลายคนต้องลองผิดลองถูกกับชีวิตด้วยการเลือกเรียนต่อคณะ/สาขาที่คนอื่นว่าดี แต่พอเรียนไปแล้วก็ไม่ใช่ เสียเวลาไปอีก

ดังนั้น วิธีที่ง่ายและจะช่วยน้องได้ดีที่สุดคือ เริ่มทบทวนตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ ค้นหาเด่น-จุดด้อย สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ และความคาดหวังอื่นๆ จากนั้นก็เขียนลิสต์ต่างๆ เกี่ยวกับตัวเองลงไปโดยไม่ต้องปรึกษาใครให้สับสน เพราะไม่มีใครรู้จักตัวเราดีเท่ากับตัวเอง เมื่อน้องได้ลองวิเคราะห์ตัวเองแล้วก็จะพอตอบตัวเองได้ว่า เราถนัดอะไรและเหมาะกับการทำสิ่งไหน เพื่อต่อยอดไปถึงหนทางอาชีพอนาคตได้นั่นเอง


5. เรียนเสริมทักษะเพื่อค้นหาและพัฒนาตัวเอง
ถ้าหากน้องคนไหนยังตอบตัวเองไม่ได้จริงๆ ว่าเราถนัดหรือชอบอะไร อนาคตรักที่จะทำงานแบบไหนกันแน่ การค้นหาและพัฒนาศักยภาพของตัวเองก็มีแนาวทางหลากหลายด้วยกันให้น้องๆ ไปลอง เช่น การลงเรียนภาษา การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เรียนทำขนม เรียนดนตรี เรียนศิลปะ หรือจะอบรมทักษะงานฝีมือ ทักษะการเขียน ทักษะด้านการตลาด รวมทั้งเข้าร่วมทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ที่เราสนใจ ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ต่ออนาคตเราทั้งสิ้น รับรองว่าน้องจะสามารถดึงความรู้และทักษะด้านใดด้านหนึ่งออกมาได้อย่างแน่นอน

 

ข้อมูลจาก: daily.rabbit.co.th