สอบเข้ามหาวิทยาลัย

10 สิ่งที่ควรทิ้งไปกับปีเก่า เพื่อให้การเรียนดีขึ้นรับปีใหม่

10 สิ่งที่ควรทิ้งไปกับปีเก่า เพื่อให้การเรียนดีขึ้นรับปีใหม่

“ปีใหม่ คนใหม่” เราคงได้ยินคำนี้กันหนาหูเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่หลายครั้งผลลัพธ์ก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม ตั้งใจจะอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน ถึงเวลาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม และกลายเป็นอีกปีใหม่ คนใหม่ไปเรื่อยๆ บทความนี้เราขอนำทางทุกคนไปสู่คนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม กับ 10 สิ่งที่ควรทิ้งไปกับปีเก่า เพื่อให้การเรียนดีขึ้นรับปีใหม่กันนะ


1. ไว้ก่อน

คำว่า ‘ไว้ก่อน’ ควรจะเป็นสิ่งแรกที่ควรตัดออกให้ไวที่สุด พฤติกรรมผัดวันประกันพรุ่งแบบนี้ ไม่นำไปสู่ผลลัพธ์ของการเรียนดีแน่นอน ยิ่งเราผัดวันสำหรับการอ่านหนังสือออกไปเท่าไร เท่ากับว่าเรายิ่งทบบทเรียนที่ควรอ่านไปถึงวันสุดท้ายก่อนสอบเท่านั้น สุดท้ายแล้ว ปาฏิหาริย์ข้ามคืนก็ไม่สามารถช่วยเราได้ ในทางกลับกัน การค่อยๆ อ่านทบทวนบทเรียนไปทีละนิดทีละหน่อย กลับเป็นการพอกพูนความรู้และสร้างวินัยให้เราไปในตัว ไม่หนักเกิน ไม่มากเกิน สบายๆ กำลังดี


2. แยกแยะเวลาไม่เป็น

หลายๆ คนมีความตั้งใจในการอ่านหนังสือดี แต่เมื่อถึงเวลากลับไปทำอย่างอื่นจนเอาเวลานั้นมาเบียดการอ่านทบทวนจนน้อยลงไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที เวลาสำหรับการทบทวนก็แทบไม่เหลือแล้ว 

เราจึงต้องจัดตัวเองใหม่ แบ่งเวลาให้ถูก เวลาไหนเล่นก็สามารถเล่นได้เต็มที่ และเวลาอ่านทบทวนหาความรู้ก็เต็มที่เช่นกัน กำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะผ่อนคลายวันละกี่ชั่วโมง นอกจากจะทำให้การเรียนดีขึ้นแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่า เราได้ใช้เวลาใน 1 วันอย่างมีคุณค่าอีกด้วย


3. ชอบดูถูกตัวเอง

“เราเรียนไม่เก่งหรอก อ่านไปก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไร” หรือ การกดตัวเองให้รู้สึกด้อยกว่าคนอื่น นิสัยนี้เป็นโรคร้ายที่จะทำให้เราไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น แถมยังสร้างความเครียด ความกดดันให้กับตัวเองไปในตัว

ควรเปลี่ยนจากนิสัยชอบดูถูกตัวเอง ให้กลายเป็นการให้กำลังใจตัวเอง เชื่อมั่นว่าเราทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นการสร้างพัฒนาการให้กับตัวเองได้ดีกว่าการกดตัวเองให้อยู่กับที่ ท้อได้ แต่ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!


4. นอนผิดเวลา

การหลับในห้องเรียน! นิสัยขี้เซาผิดเวลาแบบนี้ แก้ไขได้ค่อนข้างยาก แต่ปัญหานี้มีวิธีแก้ที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน เริ่มต้นตั้งแต่การใช้สารกระตุ้นเข้าช่วย เช่น การดื่มกาแฟ ชาเขียว เป็นต้น

หรือจะเป็นการหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้นก็มีส่วนเช่นกัน เช่น การปรับเวลานอนให้เหมาะสม และไม่กินอาหารจนอิ่มเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงมากขึ้น หันมากินแอปเปิล ผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน 

สำหรับใครที่คิดว่าวิธีเหล่านี้ ไม่สามารถเอาชนะความง่วงของตัวเองได้ เราขอแนะนำให้ใช้วิธีการหักดิบโดยการนั่งหน้าห้อง และตั้งใจเรียนนะ


5. เรียนแบบมึนๆ

กายอยู่ห้องเรียน แต่ใจล่องลอยไปไหนถึงไหนแบบนี้ก็ไม่ไหว พยายามจัดการสติของตัวเองให้ได้ จดจ่อกับบทเรียนให้ดี ไม่งั้นหลุดจากบทเรียนแล้ว อาจจะหลุดยาวแบบกู่ไม่กลับกันเลยทีเดียว

หรือแม้แต่การจดตามสไลด์เพียงอย่างเดียวก็อย่าลืมที่จะวิเคราะห์ตามด้วย เพราะการจดตามอย่างเดียว อาจช่วยจำ แต่ต้องควบคู่กับความเข้าใจด้วยเช่นกัน


6. ขี้เกียจไปซะทุกเรื่อง

การขี้เกียจแบบครอบจักรวาล เริ่มตั้งแต่ขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจจด ฯลฯ อาการแบบนี้น่าเป็นห่วง และเชื่อว่าหลายๆ คนยังคงเป็นกันอยู่ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือ การดึงตัวเราออกจากสภาพแวดล้อมนั้นๆ

แก้ไขโดยการเริ่มทำอะไรให้เกิดความกระฉับกระเฉง เช่น การออกไปวิ่งหรือเดินทุกเช้า ให้รู้สึกว่าชีวิตมีความหลากหลายมากขึ้น หรือการมองหาเพื่อนที่ขยันไว้ข้างกาย การอยู่ท่ามกลางคนขยัน จะช่วยให้เรามีแรงฮึดที่จะขยันขึ้นได้เช่นกัน


7. ไม่ชอบอ่าน ไม่ชอบเขียน

เรามักได้ยินเสียงโอดครวญแว่วมาทันที เมื่ออาจารย์สั่งให้ทำรายงานหลายหน้า หรือให้ทบทวนบทเรียนที่มีจำนวนหลายบท เพราะเราไม่ชอบอ่านและไม่ถนัดการเขียนเป็นอย่างมาก

วิธีแก้คือ การเริ่มอ่านนวนิยายที่เราชอบก่อน อ่านอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความรู้สึกชอบและต้องการที่จะอ่านต่อ ฝึกให้ติดเป็นนิสัย จะทำให้สามารถเริ่มอ่านทบทวนบทเรียนได้ดีขึ้น 

ในส่วนของการเขียน หาวิธีการเขียนของตัวเองให้เจอ เช่น การร่างโครงเรื่องก่อน หรือการร่างใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า แล้วค่อยเรียบเรียงจนสมบูรณ์ เป็นต้น


8. ไม่กล้าถาม

เมื่อเกิดความไม่เข้าใจในบทเรียน หลายๆ คนเลือกที่จะเงียบ แทนที่จะยกมือถามออกไป เมื่อยกมือถามอาจารย์แล้วจะเกร็งขึ้นทันที เน้นก้มหน้าจดอย่างเดียว

ลองมารื้อระบบความคิดกันใหม่ สังเกตดูว่าเมื่อมีคนเริ่มกล้าที่จะถามคำถามออกไป ความเกร็งหรือความตึงที่เกิดขึ้นจะหายทันที และจะมีอีกหลายคนที่เริ่มกล้าถามมากขึ้น

ซึ่งจะนำไปสู่การพูดเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้จากทั้ง 2 ฝ่าย และจะนำไปสู่ผลลัพธ์การเรียนที่ดีขึ้นได้


9. ไม่เป็นระเบียบ

คุณเชื่อไหมว่า แม้แต่การเก็บห้องนอนให้เรียบร้อย ก็ส่งผลให้การเรียนดีขึ้นได้? เพราะการที่เรามีพื้นฐานเป็นคนมีระเบียบแล้วนั้น จะส่งผลให้เรามีความรับผิดชอบต่อเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน

ทั้งด้านการอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน การทำงาน การจัดแบ่งสรรเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน  หากใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มฝึกการมีระเบียบวินัยอย่างไร ลองเริ่มต้นจากการเก็บที่นอนกันดูนะ


10. หวังผลลัพธ์ใหม่ ด้วยการกระทำแบบเดิม

หัวข้อก็บอกไว้ชัดเจนอยู่แล้วนะครับ การย่ำอยู่กับที่ อย่างไรก็จะอยู่ที่เดิมอยู่อย่างนั้น 9 ข้อที่เราได้แนะนำมา จะช่วยให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ไม่เพียงแค่ด้านการเรียนเท่านั้น

ฉ๖๋สิ่งเหล่านี้ยังมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตเช่นกัน การเริ่มเตรียมความพร้อมก่อน เท่ากับเราเริ่มก้าวนำใครหลายๆ คนก่อน และจำไว้ว่า เมื่อเราเริ่มก้าวก่อน เราก็จะถึงเส้นชัยก่อนนะ


นี่ก็เป็น 10 ข้อดีๆ ที่มาแนะนำน้องๆ หลายๆ คนให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกัน ปีใหม่เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทำอะไรใหม่และแตกต่างจากเดิม หวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของน้องๆ แล้วมาต้อนรับผลการเรียนที่ดีขึ้นในปีใหม่ด้วยกันนะ




ข้อมูลจาก : 
teen.mthai.com
www.voathai.com
health.kapook.com
www.sanook.com