5 ภาษาควรเรียนไว้ บริษัทไหนก็อยากคว้าตัว

       ภาษาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการติดต่อสื่อสาร ทั้งในชีวิตประจำวัน และการทำงาน ทุกวันนี้การเก่งภาษาเพียง 2 ภาษา ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับโลกของธุรกิจ เพราะภาษาที่ 3 เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการขยับขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศ รวมไปถึงการเข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจในประเทศของบริษัทต่างชาติ ดังนั้นหากใครที่มีทักษะภาษามากกว่า 3 ภาษาขึ้นไป ย่อมได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการสมัครงานนั้นเอง วันนี้เราขอแนะนำ “5 ภาษาควรเรียน บริษัทไหนก็อยากคว้าตัว” สำหรับคนที่สนใจจะศึกษาภาษาที่ 3 ว่ามีภาษาอะไรบ้างที่ควรเรียน ไปดูกันเลย



1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin)
        ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุดในโลกประกอบไปด้วยหลากหลายชาติพันธุ์ คนใช้ภาษาจีนมีกว่าพันล้านคนซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดมากที่สุดในโลก และประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่จึงเป็นเหตุให้มีภาษาจีนกว่า 300 ภาษาในแต่ละพื้นที่ แต่ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการของประเทศจีนคือ “ภาษาจีนกลาง” หรือ “ภาษาแมนดาริน” การติดต่อธุรกิจและการท่องเที่ยว เห็นได้ชัดว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นทุกวันและมีผลต่อโอกาสในอาชีพ การงานในอนาคตข้างหน้า การเรียนรู้ภาษาจีนกลางจึงจำเป็นและสำคัญมาก  รองจากภาษาอังกฤษ ถึงจะเป็นภาษาที่ถือได้ว่ายากต่อการเรียนรู้ภาษาหนึ่ง แต่หากสามารถสื่อสารทั้งเขียนและพูดภาษาจีนกลาง


2. ภาษาสเปน (Spanish)
        ภาษาสเปนถูกใช้เป็นภาษาราชการในสามทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา และยังเป็นภาษาที่สองในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีแนวโน้มว่าภาษาสเปนจะเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นภาษาที่นิยมมาก เเละได้เปรียบในอนาคต นอกจากนี้ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตมากที่สุดอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นั่นเอง


3. ภาษาญี่ปุ่น ( Japanese)      
         ปัจจุบันนี้บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เช่น ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ยานยนต์ ไฟฟ้า เครื่องจักร อาหารและอุตสาหกรรมอื่น ๆ  ทั้งมีการลงทุนและขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จึงทำให้ภาษาญี่ปุ่นยังคงเป็นภาษาที่มีอิทธิพลมาก และนอกเหนือจากด้านของการทำธุรกิจแล้ว ภาษาญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจในด้านของวรรณกรรมต่างๆ การที่เราสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาญี่ปุ่นได้ก็สามารถทำให้เราอ่านหนังสือดี ๆ ของประเทศญี่ปุ่นได้อีกมากด้วยเช่นกัน  ในหลายองค์กรจึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนในประเทศญี่ปุ่นยังพูดภาษาอังกฤษได้น้อย จึงต้องการคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ดี จึงทำให้มีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูง


4. ภาษาเยอรมัน (German)
        ถึงภาษาเยอรมันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติ แต่ก็เป็นภาษาราชการของประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของยุโรปหลายประเทศ นอกจากประเทศเยอรมนีที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการแล้ว ยังมีประเทศใกล้เคียงที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาพูดอีกด้วย นอกจากนี้ประเทศเยอรมันยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจมากที่สุดในสหภาพยุโรป เยอรมันยังเป็นประเทศที่ดีที่สุดในการริเริ่มธุรกิจเลยทีเดียว สำหรับประเทศไทยมีบริษัทสัญชาติเยอรมันหลายบริษัทเข้ามาทำธุรกิจที่นี่ ความสามารถทางด้านการพูดภาษาเยอรมันย่อมเป็นที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการสมัครงาน


5. ภาษาเกาหลี (Korean)
       เกาหลีใต้เป็นหนึ่งประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในเชิงพาณิชย์ ประเทศเกาหลีติดต่อกับเราในเรื่องต่างๆ อย่างเช่น การค้า เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางศาสนา และการเมือง โดยจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยมีบริษัทที่มาลงทุนจากประเทศเกาหลีเป็นจำนวนมาก และโดยพื้นฐานแล้วคนเกาหลีส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเท่าใดนัก จึงมีความต้องการคนที่สามารถพูดและสื่อสารภาษาเกาหลีได้ค่อนข้างสูงเพื่อมาทำงานในบริษัทหรือติดต่อด้านธุรกิจกับประเทศเกาหลีนั่นเอง ทำให้ภาษาเกาหลีมีความสำคัญมากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันวัฒนธรรมเกาหลีก็ได้เข้ามามีบทบาทกับประเทศไทยมากขึ้นในเรื่องของแฟชั่น ภาพยนตร์ และดนตรี ทำให้มีสถานศึกษาและโรงเรียนกวดวิชาบางแห่งเปิดสอนภาษาเกาหลีขึ้นอย่างมากมาย