Master Degree

เวียดนาม...ประเทศที่ยิ่งเรียนจบสูง ยิ่งไม่มีงานทำ


"แม้เวียดนามจะได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก แต่ปัจจุบัน ชาวเวียดนามที่มีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยกลับมีแนวโน้มว่างงานมากที่สุด ทั้งๆ ที่เวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำ"



          สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ปัจจุบัน ชาวเวียดนามอายุระหว่าง 15-24 ปีที่มีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมีแนวโน้มว่างงานถึงร้อยละ 17 ส่วนอัตราการว่างงานสำหรับคนที่มีการศึกษาระดับวิทยาลัยอยู่ที่ร้อยละ 14 ขณะที่แรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมระยะกลางและระยะสั้น มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 11 และร้อยละ 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานเฉลี่ยในตลาดแรงงานของเวียดนามกลับอยู่ที่ร้อยละ 2.3 เท่านั้น แสดงให้เห็นว่า ยิ่งชาวเวียดนามมีการศึกษาสูงเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสตกงานเพิ่มขึ้น
 

          บลูมเบิร์กระบุว่าแม้เวียดนามจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก อัตราการอ่านออกเขียนได้สูงถึงร้อยละ 97 และผลทดสอบ PISA ของเวียดนามเมื่อปี 2015 ติดอันดับ 8 ของโลก แต่ระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของเวียดนามกลับล้มเหลวในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาให้มีทักษะเพียงพอสำหรับตลาดแรงงานที่ซับซ้อน โดยปัจจุบัน 1 ใน 3 ของแรงงานในตลาดแรงงานของเวียดนาม มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น


          ขณะที่การศึกษาระดับโรงเรียนของเวียดนามมุ่งพัฒนาทักษะพื้นฐานสำหรับการประกอบอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนไม่มาก เช่น การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม แต่การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยกลับไม่สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิพากษ์และทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการได้ เนื่องจากการศึกษาในมหาวิทยาลัยของเวียดนาม บังคับให้นักศึกษาต้องใช้เวลา 2 ปีแรก ในการเรียนรู้เรื่องราวการปฏิวัติของโฮจิมินห์ แนวคิดสังคมนิยม และประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์ 

          ด้วยเหตุนี้เอง แม้ภาคเอกชนและบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามจะต้องการแรงงานที่มีทักษะ เช่น ผู้จัดการ หรือวิศวกรที่มีคุณภาพ แต่การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของเวียดนามกลับล้มเหลวในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นเหล่านี้แก่บัณฑิตจบใหม่ การที่เวียดนามขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเวียดนามต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอยู่มาก โดยสิงคโปร์มีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสูงกว่าเวียดนามถึง 26 เท่า มาเลเซียสูงกว่าเวียดนาม 6.5 เท่า ส่วนไทยและฟิลิปปินส์สูงกว่าเวียดนาม 1.5 เท่า


          แม้ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนมหาวิทยาลัยในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นกว่า 450 แห่ง อีกทั้งรัฐบาลเวียดนามยังตั้งเป้าว่า ภายในปี 2020 จะมีชาวเวียดนามรุ่นใหม่ที่เข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัย 560,000 คน หรือเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วถึงร้อยละ 8 แต่ขณะนี้ ผู้ปกครองชาวเวียดนามจำนวนหนึ่งกลับเริ่มส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน โดยในปัจจุบัน มีนักศึกษาชาวเวียดนามในญี่ปุ่นถึง 54,000 คน เพิ่มจากเมื่อ 6 ปีที่แล้วถึง 12 เท่า

          ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ประเทศที่มีรายได้สูงประสบความสำเร็จ คือ การพัฒนาระบบการศึกษาให้สามารถผลิตแรงงานทักษะสูงได้ ตั้งแต่ที่ประเทศเหล่านี้ยังเป็นเพียงประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับเวียดนามในการก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง คือ การปรับปรุงระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นไปอย่างล่าช้าและมีความคืบหน้าน้อยมาก

 


ข้อมูลจาก : VoiceTV
 

รีวิวหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง

สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา, การจัดการกีฬาและนันทนาการเพื่อสุขภาพ (Science Program in Sports Science, Art Program in Sport and Recreation Management for Health) มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือสาขาการจัดการกีฬาและนันทนาการเพื่อสุขภาพ ...

สาขาการออกแบบสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบสื่อสร้างสรรค์ ...

สาขานิเทศศาสตร์ (Communication Arts) มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

การตัดต่องานด้านนิเทศศาสตร์ การออกแบบสิ่งพิมพ์ดิจิทัล ...