
สถานการณ์การบินในปัจจุบันคล้ายกับรถตู้ที่มาแย่งผู้โดยสารรถเมย์ ด้วยเหตุที่รถตู้มีจำนวนมากขึ้น รถเมย์ก็มากขึ้นเช่นกัน แต่การโดยสารรถตู้ไวกว่าใช้ระยะเวลาน้อยกว่า สะดวกสบายมากกว่าผู้โดยสารจึงเลือกโดยสารด้วยรถตู้มากกว่ารถเมย์ เปรียบเทียบเหมือนสายการบินโลคอส ที่เปิดเที่ยวบินเยอะมากขึ้น ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศแทบจะมีราคาเท่ารถทัวร์แล้วในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นจากการวิเคราะห์ของสายการบิน เช่นแอร์บัส โบอิ้ง เขาได้สรุปออกมาว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า ในภูมิภาคเอเชีย จะมีการขาดแคลนบุคลากรจำนวนถึง 2 แสนคน ส่วนในปี พ.ศ.2561 และ พ.ศ.2562 ของการสำรวจนักบินในประเทศไทย ก็คาดว่าจะขาดนักบินมากถึง 2,000 คน ด้วยสาเหตุนี้ทางมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็พยายามหาหลักสูตรที่จะผลิตนักบินมาทดแทน นักบินที่จะขาดแคลนภายในอนาคต แต่ปัญหาของเราก็คือ โรงเรียนการบินของเรามีน้อย และอาชีพนักบินยังเป็นอาชีพสงวน หมายความว่ารับเฉพาะคนไทยเท่านั้น
เมื่อนักบินขาดแคลนทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ก็ได้เล็งเห็นช่องทางการเติมเต็มอาชีพที่ยังว่างอยู่เร็วกว่าสถาบันหรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ ด้วยความคิดที่ชัดเจนว่า การที่เราจะเป็นนักบินที่ดีได้ พื้นฐานหลักของนักบินมากจากความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ นักบินปกติที่ประกอบอาชีพอยู่ทุกวันนี้เกินกว่าครึ่งจบสายวิศวกรรมศาสตร์ทั้งนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าอาชีพนักบินจะต้องแปลเครื่องวัดออกมาเป็นท่าทาง ถ้าหากเรามีองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ไวกว่า เราสามารถตอบได้ทันทีว่าท่าทางเป็นแบบไหนควรวิเคราะห์ออกไปทิศทางใด เช่นท่าทางการบินบนท้องฟ้าเมื่อเครื่องบินกำลังจะเลี้ยวเด็กวิศวะฯ จะสามารถวิเคราะห์ได้เร็วมากกว่าปกติทั่วไป ซี่งในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทยยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดเลย ที่มีโครงสร้างหลักสูตรที่บูรณาการพื้นฐานทางวิศวกรรมศาสตร์ และหลักสูตรการบิน เข้าด้วยกันด้วยเหตุนี้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง จึงตัดสินใจเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนนี้ขึ้นมาก่อนที่อื่นๆ
อาชีพที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาชีพที่สุดยอดในประเทศไทยมีอยู่ 2 อาชีพ ก็คือหมอและนักบิน ทางสถาบันเราไม่ได้รับแค่นักเรียนที่เรียนเก่งอย่างเดียว ขึ้นชื่อว่า “อาชีพนักบิน” จะต้องมีขีดความสามารถอีกหลายด้าน เช่น สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน สามารถแยกประสาทส่วนต่างๆในการทำอะไรพร้อมๆกันได้ ซึ่งแน่นอนว่าทางเราต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติทางด้านนี้ “สภาวะจิตใจ” ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งการทดสอบที่วัดและประเมิณค่อนข้างยาก เราจะตรวจสอบว่าผู้เข้าสอบมีสภาวะผิดปกติหรือไม่ และเมื่อตกสู่สภาวะความกดดันเขามีกระบวนการตัดสินใจอย่างไร ในขณะเดียวกันก็ต้องดูบุคลิกภาพเหมาะกับการเป็นนักบินพาณิชย์หรือเปล่าอีกด้วย