สอบเข้ามหาวิทยาลัย

ลูกทัพฟ้าไม่อายแม่เป็นยาม ลำบากสุดๆขอเศษผักผัดกิน

UploadImage


โซเชียลฯ เผยนิยายชีวิต “เปรม” หนุ่มวัย 19 ปี สู้ชีวิตสำเร็จได้เป็นทหารอากาศ ระบุ สูญเสีย “พ่อ” เสาหลักครอบครัวตอน 6 ขวบ ลั่นไม่อายมีแม่เป็น รปภ. ลำบากสุดขอเศษผักมากินก็เคยมาแล้ว

        จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เรื่องราวของหนุ่มวัย 19 ปี รายหนึ่ง โดยอ้างว่าเพิ่งได้รับราชการเป็นทหารอากาศเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมเผยเรื่องราวชีวิตสุดรันทดตั้งแต่วัยเด็ก ระบุว่าพ่อแม่เลิกรากัน จากนั้นมาทราบภายหลังว่าพ่อเสียชีวิตจากการถูกรถชน ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก บางครั้งอดมื้อกินมื้อ แต่เพราะความมุ่งมั่น จึงทำให้ประสบความสำเร็จได้เป็นทหารอากาศ ภายหลังเรื่องดังกล่าวถูกส่งต่อกันในวงกว้าง จึงเกิดคำถามตามมาว่าหากเป็นเรื่องจริงก็น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 พ.ย. จ่าอากาศโท เปรม จันทะวงศ์ ทหารอากาศคนดังกล่าว เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องของตนเอง บ้านเดิมอยู่ที่เชียงใหม่ พ่อแม่เลิกรากันตั้งแต่ตอนที่ตนยังไม่เกิด กระทั่งตนอายุได้ 6 ขวบ จึงย้ายมาอยู่ จ.ลำปาง ส่วนแม่ทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายยา ซึ่งมีวันหนึ่ง แม่ถามตนว่า “คิดถึงพ่อไหม” ผมก็ตอบแม่ไปว่า “ไม่ ไม่ได้รู้สึกอะไร” จนแม่พูดว่า “พ่อเสียแล้วนะ โดนรถชน” ขณะนั้นรู้สึกอึ้ง และเสียใจ หลังจากนั้นเมื่อจบ ป.6 ซึ่งเป็นช่วงที่คิดว่าแย่ที่สุด มีวันหนึ่งตนเดินเท้า 3 กม.เพื่อมาสมัครเรียนต่อ

 
 
UploadImage
 

     เมื่อมาถึงโรงเรียน ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่ง จึงถามเขาว่า 'ถ้าจะสมัครเรียนต้องไปติดต่อใคร' ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า 'รู้ไหมฉันเป็นใคร ฉันเป็น ผอ. จะมาสมัคร ผู้ปกครองทำไมไม่มา' ผมจึงบอกว่า 'แม่ป่วยครับ' เหมือนผมได้ความเมตตาจาก
ผอ. เขาคงสงสารผมกับแม่ จึงรับผมเข้าเรียน แต่ก็สอบเข้าปกติ ช่วงนั้นถ้าวันไหนไม่มีจะกิน ก็จะไปขอเศษผักกาดของร้านอาหารมาผัดข้าวกิน ซึ่งข้าวที่กินก็จะเศษข้าวหักๆ มาหุงกินกับแม่” จ่าอากาศโท เปรม กล่าว

 
 
UploadImage

UploadImage
 

      ทหารอากาศคนดังกล่าว ยังเผยอีกว่า เมื่อเรียนจบ ม.3 ได้ไปสมัครสอบที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งติดตัวสำรองอันดับที่ 1 โดยวันที่ต้องมารายงานตัวตนไม่มีเงินเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งกำหนดรายงานตัวถึงเวลา 16.00 น.วันนั้นกลุ้มมาก อาจารย์เห็นเลยถามก็บอกความจริงไป คณาจารย์จึงรวมเงินออกค่าเครื่องบินให้ตนมารายงานตัวที่ กทม.ในวันนั้น ซึ่งมาถึงเวลา 17.00 น.แต่ตนโทรฯแจ้งทางโรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศว่าอาจมาถึงช้า เพราะอยู่ต่างจังหวัด โชคดีที่ทางโรงเรียนฯเข้าใจ โดยตอนนั้นแม่ย้ายตามมาด้วยโดยมาทำงานเป็น รปภ.ที่วัดพระศรีฯบางเขน ภายหลังจากที่เรียนจบ ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนย้ายมาประจำการอยู่ที่หมวดดุริยางค์ กองร้อยสนับสนุน กองพันทหารอากาศโยธิน บน.4 ต.ตาคลี จ.นครสวรรค์ แต่แม่ยังคงอยู่ที่กรุงเทพฯ “เงินเดือนทุกเดือนตั้งแต่เรียนจบ ผมยกให้แม่ทุกบาท และให้แม่เป็นคนจ่ายค่าขนมให้ผม เพราะกลัวว่าผมจะเก็บเงินไม่อยู่ ปัจจุบันแม่ก็เป็นหนี้ญาติ เพราะไปยืมมาจ่ายค่าเทอมให้ผมตอนที่มาเรียนที่โรงเรียนดุริยางค์ และก็ไม่อายนะครับ ที่มีแม่เป็นยาม ผมภูมิใจ” จ่าอากาศโท เปรม ระบุทิ้งท้าย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์