สอบเข้ามหาวิทยาลัย

จุฬาฯ เปิด 3 ผลงานวิจัยรีไซเคิล ในอุตสาหกรรมยาง

           นักวิจัย จุฬาฯ ประสบความสำเร็จนำกระดองปลาหมึกมาใช้เป็นสารเสริมแรงชนิดใหม่สำหรับยางธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพใช้งานด้านอุตสาหกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
             รองศาสตราจารย์ ดร. ศิริลักษณ์ พุ่มประดับ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า งานวิจัยกระบวนการพัฒนาและปรับปรุงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อการนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมและเป็นมิตรต่อสิงแวดล้อมนี้ มุ่งศึกษาและปรับปรุงสมบัติเชิงกล เชิงความร้อน และเชิงพลวัตของยางธรรมชาติให้สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอบสนองต่อการนำไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรมได้ โดยแบ่งหัวข้องานวิจัยออกเป็น 3 หัวข้อ ดังนี้

 
UploadImage

           1. การหาสารเสริมแรงชนิดใหม่มาทดแทนสารเสริมแรงชนิดดั้งเดิม งานวิจัยนี้ถือเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่นำกระดองปลาหมึกซึ่งมีแคลเซียมคาร์บอเนตสูงถึง90% มาใช้เป็นสารเสริมแรงชนิดใหม่สำหรับยางธรรมชาติทดแทนการใช้แคลเซียมคาร์บอเนตที่มีขายในอุตสาหกรรมที่มาจากการระเบิดภูเขา หรือเตรียมขึ้นมาจากกระบวนการทางเคมีเป็นการเพิ่มมูลค่าของวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติหรือจากภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเล เป็นกระบวนการกำจัดขยะทางทะเลที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มรายได้ ให้แก่ชาวประมงนอกจากนี้ข้อดีของการนำวัสดุที่เหลือใช้จากธรรมชาติมาใช้เป็นสารเสริมแรงนั้น คือ ราคาถูก น้ำหนักเบา และที่สำคัญคือสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
 
UploadImage

          2. การผลิตวัสดุสีเขียว (Green materials) พอลิเมอร์ที่มีการหดตัวได้ดีเยี่ยมเมื่อได้รับความร้อน คือ ยางธรรมชาติ ดังนั้นในงานวิจัยนี้ได้นำยางธรรมชาติมาผสมคู่กับพอลิเอทีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเพื่อให้ฟิล์มหดที่ได้มีความยืดหยุ่นและหดตัวได้ดีขึ้น หรือการปรับปรุงสมบัติของพลลิแล็กติกแอชิดให้มีความยืดหยุ่น ทนต่อความร้อนได้สูง โดยการผสมร่วมกับยางธรรมชาติและตัวประสาน เป็นการเพิ่มมูลค่าของยางพาราลดการพึ่งพิงการใช้ผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพียงอย่างเดียว และยังสามารถพัฒนาวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเนื่องจากยางธรรมชาติที่ใช้ไม่ได้ผ่านการคงรูปไม่มีการใช้สารเคมีการมีองค์ประกอบของโปรตีนในน้ำยางสามารถทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ในการย่อยสลาย เพื่อผลิตวัสดุสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 
UploadImage

          3.การนำกลับมาใช้ใหม่ของยางธรรมชาติที่หมดอายุการใช้งานแล้ว ศึกษากระบวนการสลายพันธะกำมะถันในยางธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการวัลคาไนเซชัน โดยใช้กระบวนการเชิงกลร่วมกับการเติมสารเคมีเพื่อนำยางที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ กระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ต้นทุนสารเคมีมีราคาถูก ง่ายต่อการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตสูงได้ องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้สามารถถูกนำไปพัฒนากระบวนการสลายพันธะกำมะถันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งช่วยในการแก้ไขปัญหาการกำจัดขยะยาง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับขยะยาง และเป็นแนวทางในการพัฒนาเพื่อนำไปใช้จริงในอุตสาหกรรมยางต่อไป
 
ที่มา : ไทยโพสต์