สอบเข้ามหาวิทยาลัย

นักเรียนไทยผู้ใช้ความพยายาม บวกความกล้า ผลักดันให้ฟันเป็นจริง “Calvin Phuri”

 UploadImage

                คำพูดที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น” เห็นจะจริง หลายคนได้พิสูจน์ให้เราเห็น ผ่านหลายกรณี แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้กรณีที่เราจะหยิบยกมานำเสนอกันในวันนี้หมดความน่าสนใจไป ด้วยทั้งอาจจะเป็นเพราะเขาต้องใช้มากกว่าความพยายามภาคเพียร แต่ต้องเพิ่มระดับความกล้าเข้าไปด้วย กับเรื่องราวของคุณเคลวิน ภูริทัต ละครล้ำ หรือนามแฝง Calvin Phuri นักเรียนไทยที่ตามหาฝันไกลถึง New York พร้อมความกล้าเต็มกระเป๋า และภาษาที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก จากจุดเริ่มต้นความฝันที่อยากได้ทุนการศึกษา เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยด้านการถ่ายภาพที่มหานครนิวยอร์ก สู่การคว้าเอาตัวนายแบบมาถ่ายงานกันกลางมหานคร ในผลงาน “Man in the City” เรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไร และผลงานของเขาจะออกมาสวยงามแค่ไหน มาติดตามไปพร้อมกันเลยครับ
               
UploadImage

                เคลวิล ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาผ่านการให้สัมภาษณ์กับ www.dudeadam.com ไว้ว่า “นายแบบในภาพที่เห็น ตอนแรกผมไม่รู้จักเขาเลยนะ ผมเห็นภาพเขาจาก Facebook สิ่งแรกที่ทำก็คือทักเขาไปผ่านทางออนไลน์นี่แหละ ซึ่งหลังจากติดต่อไปนายแบบก็ตอบกลับมาว่า หากคุณต้องการที่จะถ่ายภาพเขา จะต้องติดต่อผ่านเอเยนซี่ที่ดูแลเขาอยู่ผ่านทางอีเมล์ ซึ่งในโมเม้นนั้นก็คิดว่าทำไมยุ่งยากจัง แต่ด้วยความที่อยากลองถ่าย อยากสร้างผลงานให้กับตัวเองก็เลยลองดูสักครั้ง … ซึ่งรายละเอียดที่ส่งให้ทางเอเยนซี่ ก็คือ เราเป็นเพียงแค่นักศึกษา ที่อยากมีผลงานภาพถ่ายเก็บไว้เป็นผลงาน เพื่อยื่นเข้าขอทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่นี่ ทำให้ไม่มีเงินสำหรับการว่าจ้างนายแบบนะ แต่เราจะตอบแทนโดยการให้รูปที่ถ่าย จากที่เราถ่ายเป็นการตอบแทน พร้อมกับแนบรูปตัวอย่างผลงานที่เคยถ่ายผ่านๆ มาให้เขาดู…ซึ่งก็โชคดีที่เขาชื่นชอบและตอบตกลงกลับมา”
 
                ความรู้สึกหลังจากรู้ว่าจะได้ถ่ายภาพกับนายแบบมือชีพเป็นอย่างไร?

                “ความรู้สึกในตอนนั้นไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย รู้สึกกลัวมากกว่า เราทำอะไรลงไป จะทำได้หรือป่าว และที่สำคัญคือ เรื่องที่นายแบบจะมาถ่ายแบบกับเรานี่ เรื่องจริงหรือป่าววะ…ไม่ใช่มาวันจริงไม่มีใครมาสักคน (หัวเราะ) แต่ก็คิดว่าเอาวะทำไม่ได้ ดีกว่าไม่ได้ทำ”
 
                ในวันที่ต้องลงสนามจริงๆ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?

                “วันถ่ายจริง ทุกอย่างดูตื่นเต้นมาก ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริงที่เราต้องรับมือให้ได้ ตอนนั้นดีใจมาก ผมไม่รู้ว่ารูปจะออกมาเป็นยังไง แต่ดีใจมากๆ ที่พาตัวเองมาทำอะไรแบบนี้ ได้ทำงานกับฝรั่งนายแบบที่ดีลเอง ได้แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าเอง ได้ใช้ภาษาที่ตั้งใจจะมาฝึกฝนเอง แต่เรื่องที่น่าดีใจที่สุดก็คือ…เมื่อเอารูปมาดู สุดท้ายมันก็ถ่ายออกมาในความคิดก็ถือว่าค่อนข้างดี แต่ถ้าให้ติตัวเอง ก็คงจะติที่มันยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ มันยังไม่ค่อยมีเรื่องราวมากมายนัก แต่ก็พอใจกับความกล้า และความบ้าของตัวเองมาก”

                ผลตอบรับของผลงานในวันนั้นเป็นอย่างไร?

                “เอเจนซี่พอเขาเห็นรูปเขาชอบมาก เขาขอรูปเราไปลง website หลักของเค้า สิ่งที่น่าดีใจไปกว่านั้นคือเค้ายังให้นายแบบมาเพิ่มอีก 5 คน มาให้เราเลือกถ่าย ตอนนั้นยังคิดไม่ออกว่า 5 คนจะถ่ายอะไร เลยคิดว่าขอเลือกมาสองคนก่อน ส่วนจะเป็นคอนเซปท์อะไรยังไง นายแบบคนไหนต้องคอยติดตาม ตอนนี้อยู่ในส่วนที่กำลังคุยกับเอเจนซี่อยู่ว่าเค้าจะเอาคอนเซปท์ไหน”

                “หลังจากที่ภาพเผยแพร่ไปไม่นานก็มี fashion website เค้าเห็นรูปของเรา เค้าก็เลยติดต่อมาขอเอาไปลงแล้วให้ credit ผม…สารภาพตามตรงมันรู้สึกดีมากๆ ที่เห็นชื่อตัวเองในเว็บไซต์” (ชมผลงานได้ที่นี่)
 
                และนี้คือผลงานของเคลวิน

ผลงานภาพถ่าย : Man in the City


                “นายแบบชื่อ Mario leon adrion เขาไม่ใช่คนอเมริกันเป็นคนเยอรมันเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน เลยอยากถ่ายเขาในลุค Man in the City ให้ดูเท่ ดูสนุกสนาน ในเมืองหลวงแห่งนี้ คอนเซปท์เราเลือกจากตัวนายแบบ และดูว่าเราอยากถ่ายอะไรเลยได้คอนเซปท์นี้ออกมา ( Mario leon adrion model of one management )

UploadImage
UploadImage
UploadImage
UploadImage
UploadImage
UploadImage
 
                อะไรที่อยู่เบื้องหลังและทำให้คุณทำแบบนี้ได้?

                “ตอนก่อนที่จะมาที่อเมริกาไม่ใช่คนเก่งภาษาแต่มีความกล้ามากกว่าความรู้ กล้าไป กล้าเรียนรู้ ยังไงเราต้องปรับใหม่ทั้งหมดอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่เลยกล้าที่จะหาเพื่อนใหม่ๆ ตั้งแต่เดือนแรกที่มาอยู่ เราจะได้ฝึก ได้พูดได้ใช้ภาษาจริงๆ เหมือนกับการไปถ่ายรูปปกติเราทำงานกับคนไทย แต่ครั้งนี้เราทำงานกับฝรั่งครั้งแรก และทำคนเดียวทั้งหมดตั้งแต่ติดต่อทางอีเมล์จนไปถึงวันถ่าย”
 
                การทำงานร่วมกับนายแบบครั้งนี้ให้อะไรคุณบ้าง?

                “ตอนแรกก็คิดว่าแล้วเราจะทำได้ไหม เราจะบอกให้เค้าโพสได้รึเปล่า มันเป็นการสอนเราทุกอย่างทั้งประสบการณ์ด้านการถ่ายรูป เราได้ถ่ายรูปนายแบบมืออาชีพจริงๆ เขาก็ช่วยด้านการโพสท่าต่างๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาถนัด ถ่ายๆ ไปเขาก็ถามเราถึงเรื่องความคิด ความเห็น เรื่องถ่ายภาพบ้าง เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ ของบ้านเราบ้าง ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันดีเพราะว่าเราได้เรียนจากประสบการณ์ตรง จากการถ่ายภาพวันนั้นทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดระหว่างเขาชาวเยอรมันกับเราที่เป็นคนไทยมากขึ้น ซึ่งแน่นอนมันคุ้มกว่าการไปเรียนภาษาเฉยๆ ไม่รู้กี่เท่าเลยครับ”
 
                จุดที่พีคสุดๆ ของเรื่องนี้ยังไม่จบ Dude ยังเปิดเผยก่อนจบการสัมภาษณ์อีกว่า ด้วยความสงสัยว่าเคลวินมีประสบการณ์ทางการถ่ายภาพมานานขนาดไหน และผลปรากฏว่า “เคลวินนั้นก็แค่ชอบถ่ายรูป”

                “จริงๆ ไม่ได้เป็นช่างภาพนะครับ แค่ชอบในการถ่ายรูปก็เลยถ่ายรูปมาเรื่อยๆ ออกแนวถ่ายเล่นกับเพื่อนๆ เสียมากกว่า คิดคอนเซปท์ที่อยากถ่าย พอคิดออกก็ชวนเพื่อนไปถ่าย ที่นิวยอร์กก็มีเพื่อนที่เป็นนางแบบจริงๆ (จากประเทศไทย) มาช่วยกันแต่ก็ยังไม่เคยทำงานกับฝรั่งจริงๆ จังๆ”
 
                น้องๆ สามารถติดตามผลงานของเคลวินได้ที่ www.phuriphurithat.wix.com/calvinphuri หรือ  IG : calvinphuri
 
                สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เพราะเราเชื่อเหลือเกินว่ายังมีคนกล้า และพยายามตามฝันอย่างเคลวินอยู่อีกมากมายในโลกใบนี้ เพียงแต่วันนี้เราอยากให้เรื่องราวของเขามาสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ #dek59 #dek60 ทุกๆ คน ที่กำลังจะแอดมิชชั่น และเตรียมตัวจะแอดมิชชั่นในปีหน้า ลุกขึ้นมาตามฝัน และสร้างมันให้เป็นจริง ด้วยความกล้า และความพยายามของน้องๆ เอง โชคดีกับการแอดครับ
 
 
ขอบคุณบทสัมภาษณ์ ข้อมูล และรูปภาพจาก : www.dudeadam.com, phuriphurithat.wix.com/calvinphuri, IG : calvinphuri, fashionablymale.net และ one.1management.com