กรณีคนถ่ายรูปกระดาษคำตอบกรณีคนถ่ายรูปกระดาษคำตอบ
O-NET น้องๆ ที่ไม่ได้ทำผิดสบายใจได้ ไม่ต้องสอบใหม่ ส่วนข้อเท็จจริง สทศ. กำลังตรวจสอบอยู่
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2562 ภายหลังการสอบ O-NET ม.6 วิชาวิทยาศาสตร์ ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายกระดาษคำตอบ O-NET ส่งต่อในกลุ่มทาง FACEBOOK และในเวลาต่อมาได้มีการนำภาพดังกล่าวเผยแพร่ใน Twitter
สทศ. ขอเรียนว่า สทศ. ได้ทำการตรวจสอบและได้รับทราบข้อมูลของนักเรียนที่ถ่ายภาพกระดาษคำตอบดังกล่าวแล้ว และได้ประสานงานกับศูนย์สอบให้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลให้ สทศ. ทราบโดยด่วน โดย สทศ. จะดำเนินการตามระเบียบสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ. 2557
ทั้งนี้ ตามระเบียบสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดําเนินการทดสอบ พ.ศ.2557 ระบุเกี่ยวกับผู้เข้าสอบไว้ส่วนหนึ่งในข้อ 9 (7) ว่า ห้ามกระทําการใดๆ อันเป็นการทุจริตหรือส่อทุจริตในการทดสอบ หากผู้เข้าสอบกระทําการในข้อ 9 (7.2) จะถือว่าเป็นการทุจริตในการทดสอบ
โดยในข้อ 9 (7.2) นําอุปกรณ์อื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาตมาใช้ในการสอบ ซึ่งหมายความรวมถึงการนําอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดเข้ามาในห้องสอบด้วย
ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการตามข้อ 11 เมื่อพบการฝ่าฝืน ตามข้อ 9 (7) ให้กรรมการคุมสอบ ดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและเขียนรายงานตามแบบที่สถาบันกําหนด เมื่อสถาบันได้รับรายงานให้ดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป และมีบทกำหนดโทษตามข้อ 13 หากมีการฝ่าฝืนข้อกําหนดตามข้อ 9 สถาบันอาจดําเนินการกรณีใดกรณีหนึ่ง หรือหลายกรณี ดังต่อไปนี้
- ไม่ประกาศผลการทดสอบในรายวิชานั้นๆ หรือทุกรายวิชาสําหรับผู้ฝ่าฝืน
- แจ้งไปยังสถานศึกษาของผู้เข้าสอบที่ฝ่าฝืนข้อกําหนดเพื่อดําเนินการทางวินัย
- แจ้งพฤติการณ์การฝ่าฝืนไปยังสถาบันอุดมศึกษา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาประกอบการรับเข้าศึกษาหรือรับเข้าทํางาน
- พิจารณาดําเนินการฟ้องร้อง หรือดําเนินคดีตามกฎหมายในกรณีที่เกิดความเสียหาย อย่างหนึ่งอย่างใดแก่สถาบันหรือระบบการทดสอบ
-
จากกรณีดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติสำหรับผู้เข้าสอบ ซึ่งไม่กระทบต่อการทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ จึงไม่จำเป็นต้องจัดสอบใหม่ โดยขอให้นักเรียนไม่ต้องกังวล ส่วนบทลงโทษของกรณีนี้จะเป็นอย่างไรนั้น สทศ. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สทศ. เพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อไป