กว่าจะมีวันนี้! มาย้อนดู งานแรกของมหาเศรษฐี

สำหรับใครที่ใกล้จะสำเร็จการศึกษากำลังคิดว่าจบมาจะทำอะไรดี? อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรซึ่งไม่มีใครช่วยตอบข้อนี้ได้แต่ มีตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นมหาเศรษฐีโลกมาแนะนำให้ดูกันว่า "อาชีพแรก" ของแต่ละคนนั้นเคยประกอบอาชีพอะไรมาก่อน บางคนที่ตอนนี้รวยเป็นพันล้านหลายคนอาจจะไม่คิดว่าเขาเคยทำอาชีพนี้มาก่อน มาดูกันเลย


Jeff Bezos
อาชีพแรก : พนักงานร้าน McDonald’s
มูลค่าทรัพย์สิน : 131 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 4 ล้านล้านบาท
มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon เว็บไซต์ e-Commerce รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลของ Forbes ตอนนี้เขามีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 131 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งงานแรกของเขาเริ่มตั้งแต่อายุ 16 ปี เป็นพนักงานในร้าน McDonald’s ที่ประกาศรับสมัครงานตามหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าเขาต้องมายืนพลิกเนื้อเบอร์เกอร์ไปมาระหว่างย่าง เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำงานเหล่านี้ ก่อนจะออกมาก่อตั้งบริษัท Amazon ที่สามารถกลายเป็นเว็บไซต์แถวหน้าได้ในปัจจุบัน

Bill Gates
อาชีพแรก : โปรแกรมเมอร์
มูลค่าทรัพย์สิน : 96.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท
Bill Gates เป็นชื่อที่ทำให้นึกถึง Microsoft ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกซึ่งเขามีทรัพย์สินมูลค่า 96.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท และกลายมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก โดยงานแรกในชีวิตของเขา นั่นก็คืออาชีพโปรแกรมเมอร์ เขาได้เริ่มเข้าทำงานโปรแกรมเมอร์ที่ TRW (บริษัทที่ทำธุรกิจการบินและอวกาศ ธุรกิจยานยนต์) ในขณะที่กำลังเรียนอยู่โรงเรียนสมัยมัธยม ซึ่งงานแรกในชีวิตเขานั้นเองที่ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจเรื่องคอมพิวเตอร์อย่างบ้าคลั่งจนกลายมาเป็นเศรษฐีพันล้านและได้สร้างระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมาให้พวกเราได้ใช้กันนั้นเอง

Warren Buffett
อาชีพแรก : เด็กส่งหนังสือพิมพ์
มูลค่าทรัพย์สิน : 81.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท
เศรษฐีอันดับ 3 ของโลก งานแรกในชีวิตของเขาก็คือเด็กส่งหนังสือพิมพ์ โดยเขาเริ่มทำตั้งแต่อายุ 13 ปี หลังจากนั้นเขาได้มองหาโอกาสในการลงทุนและการทำธุรกิจต่างๆ ซึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาคือมีครั้งหนึ่งเขาได้นำเครื่องเกมพินบอลไปตั้งไว้ที่ร้านตัดผม เพื่อให้คนที่ร้านตัดผมได้มาเล่นระหว่างรอ จนกระทั่งหลังจากที่จบการศึกษา เขาได้กำไรจากการทำธุรกิจต่างๆมาทั้งหมด 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 3 แสนบาท จนทำให้ในทุกวันนี้เขาได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

Bernard Arnault
อาชีพแรก : วิศวกรโยธา
มูลค่าทรัพย์สิน : 76 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท
มหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก เขาเกิดในครอบครัวผู้ร่ำรวยจบการศึกษาจาก Ecole Polytechnique ซึ่งหลังเรียนจบงานแรกของก็คือ อาชีพวิศวกรโยธา ในบริษัทก่อสร้างของพ่อคือ Ferret-Savinel ถึงจะเป็นลูกเจ้าของ แต่อาร์โนลต์ก็ต้องแสดงความสามารถให้คนอื่นยอมรับ เขาพิสูจน์ตัวเองอยู่หลายปีจนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น และก้าวสู่ตำแหน่งประธาน ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของ LVMH จักรวาลแห่งสินค้าแบรนด์เนมรายใหญ่สุด

Steve Jobs
อาชีพแรก : เด็กฝึกงานที่บริษัทHP
มูลค่าทรัพย์สิน : 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 3 แสนล้านบาท
ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นพ่อมดแห่งวงการไอที หลายคนคงรู้จักเขาดีเพราะเขาได้สร้างปรากฏการณ์พลิกวงการสมาร์ทโฟนขึ้นจนทำให้แบรนด์ Apple เป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลกถึงแม้เขาจะจากไปแล้วแต่ชื่อเสียงของเขายังคงได้รับความนิยมและกล่าวถึงอยู่ตลอดแต่รู้หรือไม่ว่า งานแรกของเขาก็คือ การทำงานในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนระหว่างเรียนมัธยมเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัท HP หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของโลก สาเหตุที่เขาได้มีโอกาสไปทำงานที่บริษัทนี้เริ่มจากการที่เขาให้ความสนใจเรื่องอิเล็กทรอนิกส์และสิ่งประดิษฐ์เป็นอย่างมาก เขาเลยเข้าไป ”ขอ” ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จาก William Hewlett ผู้ก่อตั้งบริษัท HP เพื่อเอามาทำงาน Project ของโรงเรียน คุณ William ประทับใจในตัว Jobs เป็นอย่างมาก นอกจากจะให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แล้วได้เสนอให้ สตีฟ จอบส์ มาฝึกงานในบริษัทอีกด้วย ก่อนจะกลายมาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทชื่อดังอย่าง Apple และบริษัท Pixar บริษัทที่สร้างแอนิเมชั่นชื่อดังอีกหลายเรื่องมากมาย


เจริญ สิริวัฒนภักดี
อาชีพแรก : ลูกจ้างของชาวจีน
มูลค่าทรัพย์สิน : 1.62 หมื่นล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 5.17 แสนล้านบาท
ครอบครัวคุณ เจริญ มีอาชีพขายหอยทอดก่อนที่จะมารวยติดอันดับในประเทศไทย แต่ด้วยที่จบเพียงแค่ ป.4 งานแรกของเขาก็คือลูกจ้างของชาวจีน และได้ถูกชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจ และได้รับตำแหน่งผู้บริหารในที่สุด จนตอนนี้เขานั้นเป็นประธานกรรมการ 4 บริษัทด้วยกันคือ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) , ประธานกลุ่มบริษัท สุรามหาราษฎร จำกัด (มหาชน) , ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีซีซี กรุ๊ป และประธานบริษัท มิลเลียไลฟ์ อินชัวรัส์ จำกัด มหาชน 

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
อาชีพแรก : แพทย์ประจำบ้าน
มูลค่าทรัพย์สิน : 3.4 พันล้านเหรียญ หรือ 1.08 แสนล้านบาท
ก่อนจะมาสายนักธุรกิจ นพ.ปราเสริฐ มีอาชีพเป็นแพทย์ประจำบ้าน แผนกศัลยกรรมมาก่อน 5 ปี จากนั้นก็เริ่มมีชื่อเสียงในวงการก่อสร้างมากกว่าในฐานะแพทย์ ก่อนจะมาเป็นประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด แต่ในปัจจุบันท่านพึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งไม่นาน แต่ยังมีธุรกิจอื่นๆอยู่คือ เจ้าของโรงพยาบาลนนทเวช โดยถือหุ้นไว้ 1.37% , เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของช่อง One HD


สำหรับใครที่อ่านแล้วคงจะรู้สึกแล้วใช่ไหมว่าไม่จะมีเงินทองมากมายแค่ไหน ก็ต้องแสดงศักยภาพในการทำงานเสมอเพราะผู้คนไม่ได้ยอมรับเราในยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือเงินทองที่มีติดตัวมา แต่เป็นความสามารถและศักยภาพต่างหากที่คนรอบข้างเขาจะตัดสินเรา ทั้งนี้ขอฝากให้น้องๆ ตั้งใจมองหางานที่ชอบและรักจะทำ หากเราได้ทำในสิ่งชอบรับรองผลลัพธ์ออกมาดีแน่ๆ 


ข้อมูลจาก
aommoney.com
thepeople.co
forbesthailand.com