ในยุคที่สตาร์ทอัพกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของโลก เมืองที่เอื้อต่อการเริ่มต้นธุรกิจนวัตกรรมจึงกลายเป็น “จุดหมายในฝัน” ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสายเทคโนโลยี การเงิน สุขภาพ หรือพลังงานสะอาด
เมืองเหล่านี้ไม่เพียงแค่มีเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมหาศาล แต่ยังเต็มไปด้วยโอกาส ฝึกงาน เชื่อมต่อเครือข่ายระดับโลก และเรียนรู้จากของจริงในสนามธุรกิจ
ทำไมต้อง “เมืองสตาร์ทอัพ”?
มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม: อินเทอร์เน็ตแรง ระบบชำระเงินคล่องตัว
ระบบนิเวศธุรกิจดี: มีนักลงทุน (VC), โค้ชธุรกิจ, โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ
แหล่งรวมคนเก่งจากทั่วโลก: โอกาสได้เรียนรู้กับผู้ก่อตั้งระดับยูนิคอร์น
ค่าครองชีพในบางเมืองอาจสูง แต่คุ้มกับประสบการณ์และโอกาสที่ได้
- ได้ชื่อว่าเป็น “Startup Nation”
- โดดเด่นด้านเทคโนโลยี AI, cybersecurity
6. Toronto (แคนาดา)
- ระบบสนับสนุนแรงงานต่างชาติยอดเยี่ยม
- มหาวิทยาลัยชั้นนำ + ระบบอุปถัมภ์ธุรกิจดี
7. Bangalore (อินเดีย)
- เมืองไอทีแห่งเอเชียใต้
- แหล่งรวมสาย dev, software, SaaS ราคาค่าครองชีพต่ำ
8. Stockholm (สวีเดน)
- มีสตาร์ทอัพต่อหัวมากที่สุดอันดับต้นของยุโรป
- กำเนิด Spotify, Klarna, Skype
9. Seoul (เกาหลีใต้)
- เติบโตเร็วในด้าน deep tech, health tech
- สนับสนุนสตาร์ทอัพผ่านนโยบายรัฐอย่างจริงจัง
10. Dubai (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
- เมืองแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลและ Web3
- สนับสนุนธุรกิจใหม่แบบเต็มรูปแบบทั้งกฎหมายและเงินทุน
เมืองพวกนี้เหมาะกับใคร?
นักศึกษา/บัณฑิตใหม่ที่อยาก ฝึกงานกับบริษัทเทคระดับโลก
คนทำงานที่อยากเข้าใจระบบสตาร์ทอัพจริง ก่อนกลับมาต่อยอดที่ไทย
ผู้ประกอบการที่กำลังมองหา เมืองปลอดภัย ระบบชัด และมีคนพร้อมร่วมทุน