ถ้าบอกว่า "ดูซีรีส์ไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย" ไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่เป็นเทคนิคจาก Wharton School น้องจะเชื่อไหม?
พี่เข้าใจนะ... บางวันมันยากมากที่จะลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ "ควรทำ" ทั้งที่รู้ว่าสำคัญ แต่ใจมันไม่ไป สมองมันดึงเราไปหาสิ่งที่สนุกกว่าตลอดเวลา
แต่ถ้าพี่บอกว่า มีวิธีที่ทำให้น้องได้ทำสิ่งที่ชอบ พร้อมกับ สิ่งที่ต้องทำไปด้วยกัน โดยไม่ต้องรู้สึกผิด น้องอยากรู้ไหม?
ศาสตราจารย์ Katherine Milkman จาก Wharton School ค้นพบเทคนิคนี้จากการสังเกตตัวเอง เธอติด audiobook มาก แต่ก็รู้ว่าควรออกกำลังกาย เธอเลยตั้งกฎว่า "จะฟัง audiobook ที่ชอบได้ ก็ต่อเมื่อกำลังวิ่งอยู่บนลู่เท่านั้น"
ผลคือ เธอเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอไปยิม!
นี่คือหลักการง่ายๆ ของ Temptation Bundling คือการ "ผูก" สิ่งที่อยากทำ เข้ากับสิ่งที่ต้องทำ ให้เป็นแพ็คเกจเดียวกัน

สมองเราถูกโปรแกรมมาให้ไล่ตามความสุขทันที การจะฝืนใจทำสิ่งที่ไม่สนุกมันใช้พลังใจมหาศาล แต่ถ้าเราผูกรางวัลเข้าไปด้วย สมองก็จะเริ่มมองว่างานนั้น "น่าทำขึ้น" เพราะมีสิ่งที่ตั้งตารออยู่ด้วย
งานวิจัยพบว่า คนที่ใช้ Temptation Bundling ไปยิมบ่อยขึ้น 51% เทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้

ฟังเพลย์ลิสต์โปรดเฉพาะตอนทำการบ้าน เก็บเพลงที่ชอบมากๆ ไว้ฟังเฉพาะตอนนั่งทำโจทย์ พอถึงเวลาทำการบ้าน น้องจะรู้สึกว่า "เย้ ได้ฟังเพลงนี้แล้ว!"
ดูซีรีส์ได้ แต่ต้องระหว่างปั่นจักรยาน ถ้าน้องต้องออกกำลังกายด้วย ลองผูกสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน
กินขนมที่ชอบเฉพาะตอนอ่านหนังสือ เปลี่ยนเวลาอ่านหนังสือให้กลายเป็น "ช่วงเวลาของขนมอร่อย"

สิ่งที่ชอบนั้น ต้องทำได้ "เฉพาะ" ตอนทำสิ่งที่ต้องทำเท่านั้น ถ้าน้องฟังเพลย์ลิสต์นี้ตอนอื่นด้วย มันก็จะไม่พิเศษ และเทคนิคก็จะไม่ได้ผล
ลองคิดดูว่า น้องชอบอะไร? แล้วจะผูกมันเข้ากับอะไรที่ต้องทำได้บ้าง?
พี่เชื่อว่าน้องจะหาสูตรที่ใช่สำหรับตัวเองได้ ไปลองกันเลยนะ!
