หน้าแรก IT อาชีพไอที

รู้ไว้รับมือ 12 อาชีพที่จะมี AI มาทำงานแทนในอนาคตอันใกล้!

วันที่เวลาโพส 10 มกราคม 61 18:31 น.
อ่านแล้ว 0
P' แพว AdmissionPremium
จากการเปิดเผยข้อมูลของสำนักข่าวและนักวิเคราะห์ทั่วโลก ซึ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานด้านต่างๆ ของมนุษย์ซึ่งอาจถูกแทนที่ด้วย "หุ่นยนต์หรือ AI" ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเปอร์เซนต์ความเป็นไปได้ที่อาชีพต่างๆ จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ

และบทความนี้เราได้รวบรวม 12 อาชีพที่ AI จะมาทำแทนมนุษย์ มาไว้ให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมและเตรียมตัวรับมือกันต่อไป สำหรับใครทำอาชีพเหล่านี้อยู่หรือคิดจะวางแผนทำในอนาคต บอกเลยว่าอาชีพเหล่านี้จะไม่มั่นคงอีกต่อไป เมื่อ Ai ก็สามารถทำงานแทนคุณได้ 


1. พนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telemarketers)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 99% ในยุคปัจจุบันนี้ หลายคนอาจเคยได้รับโทรศัพท์จากระบบอัตโนมัติที่โทรมาขายสินค้าหรือบริการต่างๆ กันบ้าง นั่นเป็นเพราะอาชีพการขายผ่านทางโทรศัพท์ไม่เหมือนกับพนักงานขายอื่นๆ พนักงานขายทางโทรศัพท์ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เฉพาะทางหรือมีทักษะทางสังคมมากนักเพื่อที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ รวมไปถึงการที่บริษัทใหญ่ๆ เริ่มหันมาใช้ระบบอัตโนมัตินี้เพื่อลดต้นทุนด้วย


2. เสมียนทำบัญชี (Bookkeeping clerks)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 98% อาชีพนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะลดลง 8% ในปี 2024 และไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะการเก็บรายรับ รายจ่าย การลงบัญชี อาจถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ ลองดูตัวอย่างพวกโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปในประเทศไทย อย่าง Trclound.org Flowaccount.com ที่สามารถทำให้เจ้าของกิจการหรือเจ้าหน้าที่บัญชี สามารถลงบัญชีได้ด้วยตัวเอง


3. ผู้จัดการด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการพนักงาน (Compensation & Benefits Manager)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 96% ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะว่าอาชีพนี้คาดว่าจะเติบโต 7% ในปี 2024 แต่ความต้องการตลาดดังกล่าวไม่ได้ทำให้คุณปลอดภัยจากระบบอัตโนมัติมาแทนที่คุณเท่าไหร่นัก ยิ่งบริษัทเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ โดยเฉพาะบริษัทที่เติบโตในตลาดต่างประเทศ ระบบที่ใช้คนและงานเอกสารเป็นพื้นฐาน ใช้เวลาและงบประมาณสูงระบบคำนวณค่าตอบแทนอัตโนมัติช่วยประหยัดเวลาในการจัดสรรสวัสดิการและค่าตอบแทนให้พนักงานจำนวน เช่น โปรแกรม Ultipro และ Workday ที่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย


4. พนักงานต้อนรับ (Receptionists)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 96% เพราะระบบโทรศัพท์อัตโนมัติและระบบการลงตารางสามารถแทนที่ตำแหน่งพนักงานต้อนรับได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ไม่มีระบบโทรศัพท์ทั่วทั้งออฟฟิศหรือบริษัทต่างชาติเช่นเดียวกัน


5. พนักงานส่งของ, คนขับรถ (Couriers/Drivers/Chauffeurs)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 94% พนักงานส่งของในอนาคตอาจจะถูกแทนที่โดย โดรนหรือหุ่นยนต์ อาจยังไม่เห็นผลในตอนนี้เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เรียบร้อย แต่สิ่งนี้อาจเห็นผลกว่า 5% ภายใน 2024 และหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งกำลังพัฒนาอยู่ รวมทั้ง อูเบอร์ (Uber) และลิฟต์ (Lyft) สองผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ในสหรัฐอเมริกาออกมาเปิดเผยว่ากำลังพัฒนารถอัตโนมัติออกมาใช้งาน โดยตอนนี้อยู่ขั้นทดสอบแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามีคนขับแท๊กซี่ออกมาประท้วงมากมาย 

ข้อดีหลักๆ ของรถยนต์อัตโนมัติคือมีความปลอดภัยกว่าคนขับปกติ เพราะปัญญาประดิษฐ์ที่ควบคุมรถไม่มีข้อจำกัดเหมือนมนุษย์ ไม่เหนื่อย ไม่หลับใน ไม่ขับรถด้วยอารมณ์ และไม่ฝ่าฝืนกฏจราจร อีกทั้งยังสามารถคำนวณการเฉี่ยวชนล่วงหน้าและหลบหลีกได้ทันท่วงที จึงไม่แปลกที่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจะเข้ามาแทนที่คนขับรถทุกประเภท ตั้งแต่โชเฟอร์แท็กซี่, คนขับรถส่งของ, คนขับรถบรรทุก ไปจนถึงคนขับรถเมล์


6. แคชเชียร์, พนักงานขายในร้านค้าปลีก (Retail Salespeople)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 92%  เมื่อเดินตามห้างสรรพสินค้า โชว์รูมรถยนต์ หรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์ คุณอาจไม่ต้องการให้พนักงานขายเข้ามาแนะนำตั้งแต่เริ่มจนจบกระบวนการ หลายๆ บริษัท ได้เพิ่มความเป็นส่วนตัวและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่สามารถหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจจากอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพนักงานขายของตามห้างอีกต่อไป


7. เจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษร (Proofreaders)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 84%  เมื่อโปรแกรมพิสูจน์อักษรถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย จากฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่าง Microsoft word ไปจนถึงโปรแกรมตรวจพิสูจน์อักษรอย่าง Grammarly และ Hemingway App และยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่ทยอยเปิดตัวและอัปเดตประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้นักเขียนสามารถตรวจพิสูจน์อักษรได้ง่ายและรวดเร็วด้วยตัวเอง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรจึงถูกลดความจำเป็นลง


8. เจ้าหน้าที่สนับสนุนทางคอมพิวเตอร์ (Computer Support Specialists)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 65%  โดยงานในส่วนนี้ มีนักวิเคราะห์บอกไว้ว่า เติบโตกว่า 12% ในปี 2024 แต่ด้วยการเข้ามาของอินเทอร์เน็ต เนื้อหาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับวิธีการใช้ คำแนะนำเป็นขั้นเป็นตอนในการแก้ปัญหาเบื้องต้นทางคอมพิวเตอร์ จึงไม่แปลกใจที่ในหลายๆ องค์กรจะเริ่มใช้ Bots และการตอบแบบอัตโนมัติ แทนมนุษย์ ในการช่วยแก้ปัญหาของลูกค้า


9. นักวิจัยการตลาด (Market Research Analysts)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 61% นักวิจัยการตลาด ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการสร้างข้อความ คอนเทนท์และสินค้าบริการต่างๆ แต่ระบบอัตโนมัติ สามารถสร้างข้อมูลเหล่านี้ได้มากกว่าและง่ายกว่า เช่น GrowthBot สามารถรวบรวมงานวิจัยการตลาดในหัวข้อที่คุณสนใจและคู่แข่งในอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งแจ้งผ่านทางคำสั่งทาง Slack (โปรแกรมแชทสำเร็จรูปเจ้าหนึ่ง) ได้ทันที


10. พนักงานขายโฆษณา (Advertising Salespeople)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 54% เพราะการโฆษณาปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงจากสื่อดั้งเดิมไปเป็นสื่อดิจิทัลมากขึ้น และสื่อใหม่เหล่านี้สามารถสร้างระบบให้ผู้ใช้บริการซื้อโฆษณาได้ด้วยตัวเอง จึงไม่มีพนักงานขายมาเกี่ยวข้องในสื่อดิจิทัล ประกอบกับความนิยมในสื่อดั้งเดิมลดลง ยิ่งทำให้อาชีพนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง การคาดการณ์นี้จะส่งผลต่อการขายโฆษณาลดลง 3%


11. เสมียนหรือที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (Legal associate professionals)
อาชีพนี้มีโอกาสถูกแทนที่ 66% หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Do not Pay เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเด็กหนุ่มวัย 20 ปี Joshua Browder  โดยมีแรวบรรดาลใจจากที่เขาถูกเรียกค่าปรับอย่างไม่เป็นธรรม  เขาจึงพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเขา โดยให้ผู้ประสบปัญหามากรอกแบบสอบถาม แล้วให้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์ว่า คน ๆ นั้นทำผิดกฎหมายอย่างไร ซึ่งหากปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์แล้วว่าคนๆ นั้นไม่ผิด มันจะร่างจดหมายโต้แย้งให้กับลูกความของมันโดยอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ตัวดังกล่าวยังเปิดให้ทดลองใช้ฟรี 21 เดือน และพบว่า Do not pay  มีเคสมากว่า 250,000 เคส และสามารถชนะคดีได้มากกว่า 160,000 คดีเลย


12. นักข่าว/นักเขียน/ล่าม/นักแปลภาษา (Journalists/Writers/Translators)
อาชีพเหล่านี้มีโอกาสถูกแทนที่ 33% ปัจจุบันสำนักข่าวใหญ่ๆ อย่าง  New York Times, Washington Post, CNN, NBC ได้ใช้ AI มานำเสนอข่าวแล้วทั้งสิ้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Washington Post ได้มีการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์แบบ Hybrid ที่มีชื่อว่า Heliograf ซึ่งได้ทำการติดตามการเลือกตั้งในเขตต่างๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และนำข่าวสารมานำเสนออย่างต่อเนื่องแบบ Real-time พร้อมเปิดให้นักข่าวที่เป็นคนจริงๆ ได้เข้ามาทำการตกแต่งเนื้อหาเพื่อให้มีความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น

นอกจากนักข่าวและนักเขียนแล้ว อาชีพนักแปล ก็กำลังถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ของ Google ที่เรียกว่า Google Briain  สามารถสร้างภาษากลางขึ้นมาได้ โดยเรียกว่า Google Neural Machine Translation โดยปัญญาประดิษฐ์นี้จะแปลงจากอีกภาษาหนึ่งมาเป็นภาษากลาง พร้อมกับแปลงไปเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ผู้ใช้งานต้องการได้อย่างแม่นยำ ซึ่งในปัจจุบัน GNMT นี้ถูกนำมาใช้ในระบบ Google Translate อย่างเต็มตัวแล้ว และรองรับการแปลข้ามภาษาแบบอิสระได้ถึง 10 คู่ภาษาจากทั้งหมด 16 คู่ภาษาที่มีในเวลานี้ ถัดจากนี้ไปทีมงาน Google ก็จะคอยปรับปรุงให้ Google Translate มีคุณภาพมากขึ้น และปรับปรุงสถาปัตยกรรมระบบให้ซับซ้อนน้อยลงด้วย  


แม้ว่าผลการศึกษาในครั้งนี้อาจจะไม่ได้แม่นยำ 100% แต่ก็พอให้แนวทางกับเราได้ว่าควรปรับตัวอย่างไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยและบริบทความพร้อมทางเทคโนโลยีของแต่ละประเทศ บทความนี้ นอกจากต้องการเผยแพร่ข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็อยากชวนน้องๆ และเพื่อนๆ ทุกคนมาเตรียมทักษะความรู้ให้เหนือกว่าหุ่นยนต์ สำหรับอนาคตของเราไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วย


ที่มา :
www.bbc.com
blog.hubspot.com
www.theeleader.com

 

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด