หน้าแรก IT ข่าว/บทความไอที

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Internet Trends 2019

วันที่เวลาโพส 05 กรกฎาคม 62 01:15 น.
อ่านแล้ว 0
P' แพว AdmissionPremium

ทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ ในการทำธุรกิจและพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เพราะเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นแม้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่น "สมาร์ทโฟน" ที่ปัจจุบันนี้แทบทุกคนต่างมีใช้ ไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือวัยทำงานไปจนถึงสูงอายุ และอีกสิ่งหนึ่งที่เราใช้กันอยู่ทุกวันคือ "อินเทอร์เน็ต"

แล้วทุกคนอบากรู้ไหนว่า กระแสหรือเทรนด์ต่างๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตในปี 2019 จะมีอะไรน่าสนใจติดตามบ้าง? วันนี้ทาง Admission Premium มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจากนักวิเคราะห์ระดับโลกมาฝากให้ทุกคนได้รับรู้และอัปเดตไปพร้อมๆ กัน ดังนี้

1. ชาวเน็ตโลกลดลง  ในปี ค.ศ. 2018 โลกเรามีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตราว 3,800 ล้านคน หรือคิดเป็น 51% ของประชากรโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 3,600 ล้านคนในปี 2017 โดย 3 ประเทศแรกที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุด ได้แก่ จีน อินเดีย และสหรัฐฯ​ ส่วนสมาร์ทโฟนก็เป็นช่องทางที่คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด 

2. 'รูปภาพ' เป็นรูปแบบสื่อที่แพร่หลายที่สุด หลายๆ แพลตฟอร์มจึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เล่นกับภาพได้ เช่น มีฟิลเตอร์ในการตกแต่งภาพ , การแก้ไข/ตัดต่อภาพในเวลาสั้นๆ , การแท็กเพื่อนไปยัง Marketplace แม้แต่ Google ก็ยังพัฒนาเทคโนโลยีวิเคราะห์รูป เพื่อรองรับการค้นหาผู้ใช้งานด้วยภาพ 

3. วงการเกมกลับมาเติบโตอีกครั้ง  จำนวนเกมเมอร์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมาตลอด 5 ปี โดยปีที่ผ่านมามีผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างเป็นทางการราว 2.4 พันล้านคน ซึ่งทำให้วงการเกมมีการพัฒนาในคอมมูนิตี้ ที่นอกจากจะเล่นด้วยกันได้แล้ว ยังเป็นเหมือน social platform ที่ใช้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้แพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเกมเติบโตตามไปด้วย เช่น Discord และ Twitch 
 
4. Youtube, Instagram, Stories และ Podcast ยังคงเติบโตขึ้น  จากการเก็บข้อมูลเวลาใช้งานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต พบว่าแพลตฟอร์มที่คนทั่วโลกใช้มากที่สุดคือ Facebook ที่เฉลี่ยแล้ว เราใช้เวลากัน 30% ของวันอยู่ในนั้น ในขณะที่ Youtube ก็มีอัตราการใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 27% และ Instagram ก็เพิ่มขึ้นเป็น 19% 

5. ‘Freemium’ เป็นที่นิยมสำหรับธุรกิจออนไลน์  ธุรกิจที่ตรงกับผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้ให้บริการ Cloud หรือ Streaming เช่น Dropbox และ Spotify บอกว่า การเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานฟรี ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในปี 2018 รายได้ของ Amazon, Microsoft และ Google รวมกันสูงถึงเกือบ 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ​ 

6. ‘Data’ ตัวควบคุมความสำเร็จของธุรกิจ  ส่วนใหญ่ต้องใช้ ‘ข้อมูล’ ในการตัดสินใจหรือการวางแผน แต่ในยุคนี้ ธุรกิจเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ ‘digital data’ มากขึ้น โดยเฉพาะ real-time data ซึ่งเกิดขึ้นอยู่บนโลกของอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองลูกค้าได้ในทันที เช่น บริการการจองสินค้า บริการจองที่พัก เป็นต้น อีกหนึ่งความสำคัญของ ‘ข้อมูล’ คือหากธุรกิจมีข้อมูลในปริมาณมากพอ ก็จะสามารถนำไปสอนและพัฒนา AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและให้บริการที่สมบูรณ์แบบ​ 

7. อินเทอร์เน็ต = โอกาส  เช่น Grab หรือ Fastwork สำหรับคนที่อยู่ใน Gig Economy ในด้านการศึกษา การเรียนการสอนออนไลน์ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนเข้าถึงการศึกษาได้ง่ายและมากขึ้น ข้อมูลจาก Coursera ที่รวบรวมหลักสูตรจากหลายมหาวิทยาลัยชื่อดังระบุว่า เกือบ 80% ของรายได้ปี ค.ศ. 2018 มาจากหลักสูตรทางด้าน data science สูงถึง 31% ตามมาด้วยหลักสูตรด้านเทคโนโลยี 25% และหลักสูตรทางด้านธุรกิจ 23% 

8. ชาวเน็ตวิตกถึงสุขภาพและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  ชาวเน็ตส่วนใหญ่รู้สึกถึงผลกระทบของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวลานานๆ โดยผลเสียที่เกิดขึ้นคือการนอนไม่พอ เป็นโรค FOMO หรือการถูกบูลลี่ รวมถึงกระทบต่อสรีระทางร่างกาย และกลายเป็นโรควิตกกังวล ส่งผลให้การใช้งานโซเชียลมีเดียเติบโตลดลง ในหลายๆแพลตฟอร์มจึงออกฟีเจอร์ ติดตามดู (tracking) เวลาการใช้งาน รวมถึงเตือนให้ดูแลสุขภาพส่วนตัว หลังจากมีข่าวข้อมูลรั่วไหลบ่อยครั้ง ผู้ใช้งานจึงเริ่มให้ความสำคัญกับพัฒนาการทางกฎหมาย เช่น GDPR หรือการระบบเข้า-ถอดรหัสข้อมูล (encryption) ในการส่งข้อความมากขึ้น 

9. การเติบโตของ ‘จีน’ บนโลกอินเทอร์เน็ต  นอกจากครองอันดับผู้งานใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดแล้ว ‘จีน’ ยังมีแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์มากขึ้นอีกด้วย เช่น Douyin, Kuaishou และ Haokan ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม , Alipay ได้กลายเป็น Super App ที่มีผู้ใช้งานรวมมากกว่า 1 พันล้านคน , สื่อการเรียนรู้แบบออนไลน์ และ live streaming เป็นกลไกที่สำคัญมากในการสร้างเสริมการศึกษาสำหรับเด็กในจีน เป็นต้น 



ที่มา
https://thematter.co
https://www.marketingoops.com

คนอื่นๆอ่านเรื่องนี้ แล้วมักจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ต่อ

หมวด